เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่อาคารแคปปิตอลทาวเวอร์ ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน เจ้าหน้าที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยทหารจากกองร้อยรักษาความสงบที่ 2 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ 15 นาย นำโดยนายพิทสันต์ ถนนทิพย์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ เข้าตรวจค้นคนต่างด้าวลักลอบทำงานในบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงาน ตั้งอยู่บนชั้น 16 และ 19 โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เข้าตรวจสอบแต่ไม่พบการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งทางผู้บริหารหัวเว่ยได้เชิญชุดตรวจค้นเข้าชี้แจงการดำเนินงานของบริษัทว่าปฎิบัติตามกฎหมายไทยและยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่างพร้อมถือโอกาสนำเสนอผลประกอบการของปีที่ผ่านมา
นายพิทสันต์ กล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนไปที่กระทรวงแรงงานว่ามีการใช้คนต่างด้าวทำงานจำนวนมากจึงมาตรวจค้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ที่ให้ทหาร ตำรวจ กรมการจัดหางาน เข้าตรวจสอบจับกุมนายจ้างและลูกจ้างต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายแต่จากการตรวจทั้ง 2 ชั้น เป็นคนไทยประมาณ 200 คน และคนต่างชาติ 100 คน พบว่ามีการปฎิบัติตามกฎหมาย มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง โดยบริษัทหัวเว่ย ได้รับอนุญาตให้จ้างคนต่างด้าวทำงาน 796 คน แต่ใช้ต่างด้าวรวม 9 สัญชาติ อาทิ จีน ไต้หวัน อิหร่าน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ แคนาดา อินเดีย ทำงาน 671 คน ส่วนคนไทยมี 468 คน ซึ่งจะยังคงเดินหน้าตรวจค้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนายเดวิด หลิว ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย ฯ กล่าวว่า หัวเว่ยทำธุรกิจด้านโทรคมนาคม ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสาร สำนักงานใหญ่อยู่ในจีน และเลือกไทยเป็นสำนักงานใหญ่ เป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะไทยมีศักยภาพ มีความมั่นคง มีปัจจัยส่งเสริมการลงทุนพร้อมทุกด้าน โดยมีการขอโควต้าทำงานในไทยภายใต้บีโอไอหรือการส่งเสริมการลงทุน ดำเนินธุรกิจอยู่ไทยมานาน 16 ปี ปฎิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง ส่วน บริษัทข้ามชาติบางแห่งที่ไม่ปฎิบัติตามกฎระเบียบไทย หัวเว่ยมองว่าเป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ และไม่เอาเป็นแบบอย่าง ขอบคุณ ก.แรงงาน ที่เล็งเห็นและช่วยยืนยันความถูกต้อง
