เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) มีนโยบายให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) มีความพร้อมในการใช้งานได้หรือไม่ ว่า ล่าสุดได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ กทม.ในการสอดส่องดูแลทั้งปัญหาการจราจร และปัญหาอาชญากรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายชื่อคณะทำงานจาก บช.น. ก่อนที่จะเป็นการปรับมุมกล้องเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจของคณะทำงาน เช่นเดียวกับการร่วมมือกับภาคเอกชน ซึ่ง บช.น.จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ หากมีคณะทำงานแล้วจะสามารถตรวจดูกล้องวงจรปิดได้อย่างรอบด้าน
“ถามว่าจะต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มหรือไม่ ต้องรอดูก่อนว่าหากมีการปรับกล้องวงจรปิดของภาคเอกชน กทม. และ บช.น.แล้ว จะสามารถดูแลได้อย่างคลอบคลุมทุกพื้นที่หรือไม่” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.อำนวย ยังกล่าวถึงโครงการรณรงค์ให้รถยนต์ทุกคันในพื้นที่กรุงเทพฯ ติดกล้องวงจรปิด ว่า โครงการนี้เป็นการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล การสร้างวินัยจราจร รวมถึงการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งจะต้องปฏิรูปร่วมกับบริษัทประกันภัย สำหรับแนวทางการดำเนินงานคือ ในระยะ 5 ปีแรก หากประชาชนรายใดติดตั้งกล้องวงจรปิด บริษัทประกันภัยจะลดเบี้ยประกันให้เท่ากับราคากล้องวงจรปิด
“ในเบื้องต้นได้มีการเจรจากับตัวแทนบริษัทประกันภัยและมีความเห็นพ้องกัน โดยบริษัทประกันภัยให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาพบกรณีเคลมรถเถื่อน โดยจงใจให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ใหม่ ทั้งนี้ หากมีการสานต่อโครงการจริงก็จะเกิดประโยชน์ทั้งผู้ขับขี่และบริษัทประกันภัยด้วย โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดรถยนต์ทุกคันนี้ ถือเป็นการควบคุมวินัยจราจรของทั้งผู้ขับและผู้คนที่ร่วมใช้พื้นที่ใช้ท้องถนน เช่น การฝ่าไฟแดง และเพื่อการป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น เพราะจากเดิมที่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่บริเวณเสาไฟ หากทำลักษณะนี้ กทม.จะมีกล้องเคลื่อนที่เป็นล้านๆ ตัว ที่ช่วยให้มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
แหล่งข่าวจากสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกล้องวงจรปิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สจส.ทั้งสิ้น 53,249 ตัว โดยสามารถเชื่อมโยงสัญญาณภาพกับส่วนกลางได้ 14,845 ตัว และไม่ได้เชื่อมโยงกับส่วนกลาง 38,404 ตัว ด้วยเหตุผลว่าการเชื่อมโยงสัญญาณด้วยระบบไฟเบอร์ ออพติค ต้องใช้เงินลงทุนนับพันล้านบาท