‘ปากคลองตลาด’ เสน่ห์เมืองที่ไร้ระเบียบ โดย ณัชพิมพ์ รัตนาสินนอก

แผงขายดอกไม้ทั้งสองด้านทางเท้า

เสน่ห์กรุงเทพมหานครอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและอยากสัมผัสคือ “หาบเร่แผงลอย” ที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปหลายจุด ที่มีชื่อเสียงหนึ่งในนั้นคือ “ปากคลองตลาด” แหล่งค้าขายดอกไม้สดขนาดใหญของประเทศ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เรียกได้ว่า หากใครต้องการซื้อหาดอกไม้ “ปากคลองตลาด” จะเป็นตัวเลือกอันดับ 1 เสมอ เพราะมีดอกไม้ให้เลือกมากมายหลากหลาย

ปากคลองตลาด อยู่ในพื้นที่เขตพระนคร มีการค้าขายตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นี้เปิดมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ซึ่งเป็นจุดค้าขายสินค้าที่สำคัญในสมัยนั้น เพราะอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และมีคลองหลายสายเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านใน

สภาพปัจจุบันมีตลาด 3 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดปากคลองตลาด ตลาดยอดพิมาน 2 แห่งนี้อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงมหาดไทยให้สัมปทานเอกชนเป็นผู้ดูแล อีกฝั่งซึ่งมีถนนจักรเพชรกั้นกลาง คือ ตลาดส่งเสริมเกษตรไทย เอกชนดูแลเช่นกัน

kon01140259p2

Advertisement

ตลาดส่งเสริมเกษตรไทย อีกตลาดที่เปิดพื้นที่รองรับผู้ค้า

ปัญหาคือ ปัจจุบันทางเท้าทั้งสองฝั่งในย่านนี้ เต็มไปด้วยแผงค้าที่วางขายดอกไม้ ผัก และผลไม้ กลายเป็นว่า เสน่ห์เมืองในย่านนี้ได้สร้างผลกระทบให้กับประชาชนส่วนรวม เพราะทางเท้าและผิวจราจรย่านปากคลองฯ เต็มไปด้วยแผงค้าดอกไม้ วางเรียงรายจนไม่สามารถสัญจรได้ จนเป็นที่เลื่องชื่อว่า ไปแถวนี้ต้องทำใจกับสภาพรถติด

ด้วยเหตุนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงมีนโยบายจัดระเบียบผู้ค้าเพื่อคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ด้วยการยกเลิกจุดผ่อนผันที่รองรับผู้ค้า 359 ราย รวมทั้งผู้ค้านอกจุดผ่อนผันที่ฝ่าฝืนวางขายสินค้า 809 ราย ให้ย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด พร้อมประสานตลาดข้างเคียง 3 แห่ง นำผู้ค้าที่ตั้งแผงเกะกะเข้าไปทำการค้า แบ่งเป็น ตลาดปากคลองตลาด 321 แผง ตลาดยอดพิมาน 798 แผง และตลาดส่งเสริมเกษตรไทย 150 แผง รวมแล้วจะสามารถรองรับผู้ค้าได้กว่า 1,269 แผง โดย กทม.ได้เจรจาผู้ประกอบการตลาดทั้ง 3 แห่ง ให้คิดค่าเช่าผู้ค้าในอัตราที่เหมาะสม โดยให้คงอัตราเดิมไปตลอด พร้อมขอเว้นค่าเช่าในเดือนแรก

Advertisement

kon01140259p3

ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องลงมาเดินบนผิวจราจร เพราะทางเท้าแคบมากจนเดินไม่สะดวก

“ณรงค์ ปล้องอ้วน” ตัวแทนผู้ค้าตลาดยอดพิมานและตลาดปากคลองตลาด บอกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ค้าแจ้งความเดือดร้อนว่าตลาดเรียกเก็บค่าแรกเข้าหรือแป๊ะเจี๊ยะสูงถึง 3-5 แสนบาท จึงขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งพื้นที่ว่างในตลาดมีมากเพียงพอต่อการรองรับผู้ค้าใหม่ที่จะย้ายเข้าไป โดยอัตราค่าเช่าจะแตกต่างกันตามโซนพื้นที่ แบ่งเป็นพื้นที่ที่จัดไว้แล้วขนาด 2 ตารางเมตร อัตราเช่า 3,500 บาทต่อเดือน และมีพื้นที่ว่างสำหรับผู้ค้ากำหนดขนาดพื้นที่เอง อัตราเช่าตารางเมตรละ 2,000 บาทต่อเดือน

“ขณะนี้ ผู้ค้าประสานไปยังตลาดราว 200 ราย ซึ่งยังไม่สามารถทำสัญญาได้จนกว่าจะได้รับการรับรองจาก กทม. ว่าเป็นผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ เพื่อป้องกันผู้สวมสิทธิที่หวังหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ปัจจุบันในตลาดทั้ง 2 แห่ง มีแผงค้าราว 400 ตารางเมตร และผู้ค้าประมาณ 900 ราย โดยผู้ค้าส่วนใหญ่จะเช่าพื้นที่ร่วมกัน อาทิ 1 แผงค้า จะมีผู้ค้า 3 ราย ซึ่งจะแบ่งเวลาขายสินค้าเป็นกะ ขายส่งมะลิช่วงเช้า ดาวเรืองช่วงบ่าย กุหลาบช่วงค่ำ เป็นต้น โดยที่อัตราค่าเช่าจะเท่าเดิม ทางตลาดไม่ได้เรียกเก็บทั้ง 3 ราย จึงคาดว่าผู้ค้าที่มาติดต่อไว้ 200 ราย อาจจะใช้สิทธิในลักษณะเช่นนี้” ณรงค์กล่าว

อีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดวันจัดระเบียบ ขณะที่ผู้ค้าบางส่วนยังดื้อแพ่งที่จะขายต่อ แผนพัฒนาพื้นที่ย่านปากคลองตลาดของ กทม.จะ “สำเร็จ” หรือ “สะดุด” ต้องติดตาม!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image