ตร.เร่งตามตัว หนุ่มสาวจอดป้ายแดง โชว์บทรักกลางร้านซักผ้า มีโทษปรับ 5 พัน
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เจ้าของร้านให้บริการตู้ซักเสื้อผ้าแบบหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก ร้องเรียนว่า มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง มามีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง จนทำให้ร้านทนไม่ไหว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชายหญิงคู่หนึ่งมาจอดรถแวนสีขาวหน้าร้าน จากนั้นได้เปิดประตูรถออกมา โดยชายคนขับสวมเสื้อสีขาว ไม่ได้ใส่กางเกง ส่วนฝ่ายหญิงใช้ปากช่วยทำอนาจารให้ฝ่ายชาย ก่อนจะปิดประตูขึ้นรถไป โดยวงจรปิดหน้าร้านได้จับภาพได้
เจ้าของร้านกล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ 2 วัน มาเปิดกล้องวงจรปิดดูจึงเห็นภาพดังกล่าวและได้ไปแจ้งความที่ สน.หนองจอก ตำรวจระบุว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ต้องมาแจ้งขณะก่อเหตุ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ต่อมาเดือนตุลาคม ชายหญิงคู่เดิมเข้ามาในร้านอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ทั้ง 2 คน ใส่เพียงเสื้อด้านบน เปลือยด้านล่าง และทำมีพยายามมีเพศสัมพันธ์ในร้านอีกครั้ง
“แจ้งตำรวจแล้วไร้ความคืบหน้า จึงร้องสื่อ เพราะร้านตนให้บริการแค่ซักผ้า แต่ชายหญิงคู่นี้กลับทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม อยากจะวอนตำรวจช่วยตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และอยากถามว่าทำไมต้องมาทำแบบนี้ที่ร้านตน”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ต.อ.ประเสริฐ สอนแจ่ม ผกก.สน.หนองจอก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าของร้านให้บริการตู้ซักเสื้อผ้าแบบหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง อยู่ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. แจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับคู่หนุ่ม-สาว เข้ามากระทำอนาจารภายในร้านหลายครั้งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองจอก อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเบื้องต้นผู้ก่อเหตุใช้รถยนต์ทะเบียนป้ายแดง แต่การสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีนั้นไม่ยาก
“สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองน่าจะมีเพจที่ตื่นเต้นของตัวเองเพื่อให้มีคนติดตาม ซึ่งหากการติดตามตัวมาได้ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาความผิดลหุโทษ มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท”
พ.ต.อ.ประเสริฐกล่าวยอมรับตามที่เจ้าของร้านแจ้งความที่ สน.แต่ทางตำรวจแจ้งว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า แนะนำว่าต้องมาแจ้งขณะที่ทั้งสองกำลังก่อเหตุนั้นว่า มีความผิดพลาดตอนนั้นซึ่งทางตำรวจที่เจ้าของร้านเข้าพบไม่ได้แจ้งข้อมูลให้ผู้เสียหายทราบถึงการประสานงานกับฝ่ายสืบสวนให้ตรวจสอบ
