จับ’แก๊งโคนอน’ลักจยย.ส่งขายชายแดนพม่า อาละวาดฝั่งธนฯ

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ สน.บางยี่ขัน พ.ต.อ.กมล สุทธิแพทย์ รอง ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา พงส.ผทค. สน.บางยี่ขัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.6 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ”แก๊งโคนอน” ประกอบด้วย นายเมธาวัฒน์ หรือแอ๊ด สายแขก อายุ 26 ปี และนายเฉลิมวุฒิ หรือจ็อบ แสงทรัพย์ อายุ 21 ปี พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ 2 ผู้ต้องหามีหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ลงวันที่ 19 มกราคม 2559 ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัว ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาได้ขณะกำลังกบดานอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด

พ.ต.อ.กมลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2558 ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ก่อเหตุลักจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดงดำ ทะเบียน 4 กถ 3460 กรุงเทพมหานคร จากบริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานพระปิ่นเกล้า ถนนอรุณอมรินทร์ แขวง ศิริราช เขตบางกอกน้อย โดยขณะก่อเหตุ ผู้เสียหายได้เข้ามาพบเห็นการก่อเหตุของผู้ต้องหาทั้ง 2 จึงได้เข้ามาสกัดคนร้ายแต่ผู้ต้องหาคือนายจ็อบที่ซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อขู่ให้ผู้เสียหายหยุดก่อนที่จะกระหน่ำยิงซ้ำเพื่อเปิดทางไปอีก 2 นัด ลูกกระสุนพลาดไปโดนผู้เสียหายและแม่ค้าบริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไปทางสะพานพระปิ่นเกล้ามุ่งหน้าฝั่งพระนคร ต่อมาฝ่ายสืบสวน บก.น.6 จึงได้เข้าประสานข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งดังกล่าวกับฝ่ายสืบสวน บก.น.7 เพื่อและเปลี่ยนข้อมูล พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเคยก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ทั้งฝั่งธนบุรีและเขตพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ บก.น.6 หลาย 10 ครั้งจึงได้เร่งล่าติดตามตัวกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ก่อนรับสารภาพ

สอบสวนนายเมธาวัฒน์ให้การยอมรับว่าก่อเหตุมาหลายครั้งจนจำไม่ได้ ก่อนหน้าที่เคยถูกจับในข้อหาลักจักรยานยนต์ติดคุกเมื่อช่วงปี 2557 กระทั่งออกมาก็ได้ตั้งทีมกับนายจ็อบ ที่เคยก่อเหตุลักจักรยานยนต์มาก่อนออกตระเวนลักรถโดยใช้แม่เหล็กที่ทำมาพิเศษเปิดเบ้าเสียบกุญแจก่อนจะใช้เหล็กตัวทีปากแบนเสียบที่เบ้ากุญแจและออกแรงบิดเพื่อทำลายขั้วกุญแจก่อนจะขี่หลบหนีไป ก่อนที่จะนำจักรยานยนต์ที่ลักได้ไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิต โดยจะมีลูกน้องของนายไอซ์ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ที่รู้จักกันภายในคุกเป็นผู้มารับต่อไปก่อนจะจ่ายเงินกันที่หลัง เงินที่ได้ก็แบ่งกับนายจ๊อบใช้จ่ายเที่ยวกันไปวันๆ โดยแก๊งของตนจะเน้นรถยี่ห้อ รุ่นพีซีเอ็กซ์ รุ่นเวฟ และรุ่นสกุ๊ปบี้ ไอ เนื่องขายได้ราคาดี ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาทต่อคัน เนื่องจากเป็นที่ต้องการในแถบแนวชายแดนประเทศไทยและประเทศพม่าก่อนจะลำเลียงออกนอกประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image