ชัชชาติ ลั่นถึงเวลาลงทุนใหญ่ ปรับปรุงเพิ่มศักยภาพ ‘ศูนย์บริการสาธารณสุข’ ขจัดเหลื่อมล้ำ

ชัชชาติ เปรย จัดงบหนัก ปรับปรุงศูนย์สาธารณสุข ทั่วกทม.ขจัดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมสัญจรสำนักอนามัย

นายชัชชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้มาสัญจรที่สำนักอนามัยถือว่าเป็นสำนักที่สำคัญทำให้ระบบการแพทย์ปฐมภูมิสู่ชุมชน โดยดูแลศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ศูนย์ย่อย 71 แห่ง ปัญหาคือยังมีอัตราที่บรรจุไม่ครบ ทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง แต่ติดกรอบเรื่องค่าใช้จ่ายบุคคลากรที่ต้องไม่เกิน 40% ของงบประมาณประจำปี ทำให้ต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยกำกับดูแลให้มากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวว่า การเพิ่มศักยภาพศูนย์บริการสาธารณสุข ถือเป็นนโยบายที่สำคัญ โดยหลายแห่งมีสภาพทรุดโทรม จึงมีโครงการปรับปรุง และสร้างใหม่หลายแห่ง ในงบประมาณปีนี้และปีถัดไป ให้อยู่ในสภาพที่พร้อม

Advertisement

“ถึงเวลาครั้งใหญ่ที่ต้องลงทุนครั้งใหญ่กับระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ ที่ผ่านมา กทม.ลงทุนกับระบบต่างๆมากมาย ทั้งป้องกันน้ำท่วม ระบบคมนาคมขนส่ง แต่ระบบที่มีผลต่อความเหลื่อมล้ำคุณภาพชีวิตคือระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ โดยให้นโยบายเตรียมปรับปรุงทั้งหมดรวมถึงศูนย์ย่อยด้วย” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนอัตราบุคคลากรที่ไม่เพียงพอ ให้นำเทคโนโลยีมาช่วย หลายครั้งประชาชนไม่สามารถเดินทางมาที่ศูนย์สาธารณสุขได้ ก็ให้นำ Telemedicine เพื่อเชื่อมโยงผู้ป่วยกับแพทย์ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์สาธารสุข หรือโรงพยาบาลได้ ซึ่งมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 40,000 ครั้ง การขยายเทคโนโลยีทำให้ใช้ทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Advertisement

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนการดูแลผู้สูงอายุ จะจัดตั้งชมรมผู้สูงอายุให้มากขึ้น ให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ให้ติดบ้านติดเตียง ให้มาติดเพื่อนแทน เพราะกรุงเทพฯ ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีแล้ว 222 แห่ง ต้องเพิ่มจำนวนชมรม และเพิ่มสมาชิกเข้าไป เพื่อให้ กทม.ดูแลผู้สูงอายุในเชิง Active มากขึ้น พร้อมกับขยายเตียงไปยังชุมชนให้มากขึ้น โดยให้ผู้ป่วยติดเตียงอยู่บ้าน เป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุข โดยมีโครงการโรงพยาบาลหมื่นเตียง ซึ่งมีอยู่ในระบบกว่า 13,000 เตียง จึงต้องเพิ่มผู้ดูแล หรือ Caregiver โดยให้สำนักอนามัยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝึกอาชีพการเป็นผู้ดูแลให้มากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับแจ้งจากทราฟฟี่ฟองดูว์ที่เกี่ยวข้องกับสำนักอนามัยมากที่สุด คือเรื่อง สุนัขแมวจรจัด การให้อาหารนกพิราบ จึงเร่งดำเนินการทำหมันสุนัขและแมวจรจัด โดยปีนี้ตั้งเป้าทำหมัน 20,000 ตัว โดยมีเครือข่ายภาคเอกชนมาร่วมด้วย อีกทั้งยังได้ปรับปรุงศูนย์เก็บสุนัขจัด เขตประเวศ ส่วนโรคพิษสุนัขบ้า ปลอดโรคมาแล้ว 7 ปี

“สำนักอนามัยเป็นหน่วยงานหลักที่จะเห็นนำงบประมาณมาลงให้เพิ่มมากขึ้น เพราะคือหัวใจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยมีโรงพยาบาล ของสำนักการแพทย์เป็นยานแม่” นายชัชชาติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image