ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน น.7 |
---|---|
ผู้เขียน | วารุณี สิทธิรังสรรค์ |
เผยแพร่ |
“ต้นไม้เป็นสมุนไพรทั้งสิ้น การเพาะชำ การปลูก และดูแลรักษา กรมป่าไม้ทราบดี รีบไปดำเนินการแทนกรรมการโครงการฯ พื้นที่ที่จะปลูกสมุนไพรตัวอย่าง ที่เพาะชำสมุนไพร ที่สร้างหลักศิลาจารึก และที่สร้างอาคารสำหรับศึกษาวิจัย จัดนิทรรศการ จัดการศึกษา ฝึกสอนอบรมนั้นให้มีพร้อมด้วย” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งเสด็จทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ณ สวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2523
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในการริเริ่มการพัฒนาสวนสมุนไพรในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกัน สามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สภาการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี สานต่อพระราชดำรัส โดยจัดแสดงสวนสมุนไพร และระดมแพทย์แผนไทย เพื่อให้บริการหัตถการทางการแพทย์แผนไทย ประมาณ 3,000 คนจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการรวมตัวเพื่อทำความดีถวายพระองค์ ภายในงาน แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคมนี้ ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จ.พิษณุโลก โดยงานแพทย์แผนไทยฯ จัดขึ้นเพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ทรงมีพระกรุณาธิคุณพระราชทานพระนาม สิรินธร เป็นชื่อวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ทั้งนี้ ในงานยังได้รับพระกรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานในวันที่ 9 ธันวาคม 2559
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกว่า สวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย 1.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจ อาทิ ปีบ มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ราก บำรุงปอด รักษาวัณโรค แก้ไอ และเหนื่อยหอบ ดอก มีฤทธิ์ขยายหลอดลม แก้ลม รักษาโรคหืด รักษาริดสีดวงจมูก บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง โดยใช้ดอกปีบแห้งม้วน
สูบ
2.สมุนไพรกลุ่มโรคตา อาทิ อัญชัน นำมาต้มดื่ม บำรุงและแก้โรคตา 3.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคผิวหนัง มี ทองพันชั่ง ราก ใบ นำมาบดทา รักษาโรคผิวหนัง แก้ผื่นคันเรื้อรัง 4.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคทางเดินปัสสาวะ อย่าง เตยหอม โดยรากและลำต้น นำมาต้มดื่มขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ 5.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคทางเดินอาหาร อาทิ อัคคีทวาร ใช้รากทำเป็นลูกกลอน แก้อาเจียน รักษาริดสีดวงทวาร 6.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคพยาธิ อาทิ ทับทิม เปลือกรากและเปลือกต้น ขับพยาธิตัวตืดและพยาธิไส้เดือน
7.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคทางเพศสัมพันธ์ มี บานไม่รู้โรยป่า โดยนำดอกมาต้มดื่ม ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้หอบ หืด ทั้ง 5 รักษาโรคผิวหนัง แก้ไอ แก้บิด แก้พิษตะขาบ ขับพยาธิ รักษากามโรค แก้หนองใน ขับปัสสาวะ ขับโลหิตระดู และแก้กระษัย 8.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคไหลเวียนโลหิต มี ฝาง โดยแก่น บำรุงโลหิต รักษาปอดพิการ แก้ท้องเสีย แก้ธาตุพิการ ขับระดู
9.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคประสาทและสมอง มี บัวบก โดยลำต้นและใบ ช่วยให้ความจำดี 10.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคหู เนียมหูเสือ สรรพคุณ ใบ แก้ฝีในหู แก้หูน้ำหนวก
11.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ เช่น กระดูกไก่ดำ น้ำมันในเมล็ด ใช้บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก กระดูกร้าว กระดูกหัก
12.สมุนไพรกลุ่มอาการโรคสตรีและการผดุงครรภ์ ชบา โดยดอกกินเป็นผัก ช่วยฟอกโลหิต ราก แก้พิษฝี ขับน้ำย่อย เป็นยาบำรุงเลือดสตรี
พท.ป.ณัฐติฌา อ่วมขันธ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงสมุนไพรอีกตัวที่น่าสนใจคือ แก้งขี้พระร่วง ก็จะมีโชว์ในงาน โดยสมุนไพรนี้พบได้ใน จ.สุโขทัย อาจเพราะพื้นที่ ดินเหมาะสม ที่สำคัญยังพบสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทอย่างอ่อนๆ เรียกว่าเป็นวงศ์เดียวกับกัญชา อย่างไรก็ตาม สำหรับสมุนไพรตัวนี้ทางอภัยภูเบศรอยู่ระหว่างหาสารออกฤทธิ์ว่าสามารถต้านการซึมเศร้าได้หรือไม่ จากนั้นจะทดลองในสัตว์ทดลอง และในระดับคลินิกต่อไป
เป็นอีกงานที่น่าสนใจ…