รองผู้ว่าฯ มาเอง จักกพันธุ์ตรวจควันดำ สาย 53-ปอ.503 กำชับสกัดต้นตอฝุ่น PM2.5

กทม.คุมเข้ม PM2.5 ลุยวัดค่าควันดำรถโดยสารประจำทางจุดจอดถนนราชินี ต่อยอดการคัดแยกขยะระดับเขตแบบครบวงจร ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าเขตพระนคร

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม เวลา 15.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตพระนคร เพื่อติดตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 ตรวจวัดควันดำรถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย 503 และรถโดยสารประจำทางสาย 53 บริเวณท่าปล่อยรถใกล้อนุสาวรีย์ทหารอาสา ถนนราชินี โดยใช้เครื่องตรวจวัดควันดำด้วยระบบความทึบแสง

จากนั้นเร่งเครื่องยนต์อย่างรวดเร็วจนสุดคันเร่ง และคงไว้ที่ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 2 วินาที ทำการตรวจวัดค่าควันดำ 2 ครั้ง ใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน

สำหรับค่ามาตรฐานควันดำตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 เมษายน 2565 กำหนดค่ามาตรฐานควันดำตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสงต้องไม่เกิน 30% และตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบกระดาษกรองต้องไม่เกิน 40% ส่วนค่ามาตรฐานเสียงระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบกิจการที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกำชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามแนวทางป้องกันฝุ่น PM2.5 เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

Advertisement

จากนั้น นายจักกพันธุ์ เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ อาคารสำนักงานเขตพระนคร เพื่อต่อยอดการคัดแยกขยะระดับเขตแบบสมบูรณ์ครบวงจร ดำเนินการตามนโยบายการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงาน ตามโครงการทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม โดยการคัดแยกขยะแต่ละประเภท ดังนี้ 1.ขยะเศษอาหาร (ถังสีเขียว) ได้แก่ ขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ ย่อยสลายยาก 2.ขยะรีไซเคิล (ถังสีเหลือง) ได้แก่ กระดาษ พลาสติก แก้ว ขวดน้ำ กระป๋อง อะลูมิเนียม เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ต่อไป 3.ขยะอันตราย (ถังสีส้ม) ได้แก่ ขยะที่มีสารปนเปื้อนวัตถุอันตราย สารเคมี วัตถุไวไฟ 4.ขยะปนเปื้อน (ถังสีน้ำเงิน) ได้แก่ หน้ากากอนามัย สิ่งของที่สัมผัสกับสารคัดหลั่ง นำใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี สำหรับปริมาณขยะในเดือนพฤศจิกายน 2565 จัดเก็บได้ 176 กิโลกรัม การใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว 785 ใบ การใช้แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง 281 ใบ การใช้โฟมบรรจุอาหาร 335 ใบ

Advertisement

นายจักกพันธุ์ ได้สอบถามเรื่องการจัดระเบียบเรียบร้อยพื้นที่ทำการค้า เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน จำนวน 8 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 993 ราย ดังนี้ 1.ถนนข้าวสาร ตั้งแต่ถนนจักรพงษ์ ถึงถนนตะนาว เวลาทำการค้า 09.00 น.-24.00 น. ผู้ค้า 197 ราย 2.ถนนพาหุรัด-ตรีเพชร ตั้งแต่ถนนตรีเพชร ถึงถนนจักรเพชร เวลาทำการค้า 10.00 น.-18.00 น. ผู้ค้า 222 ราย 3.ถนนพาหุรัด-ฝั่งห้างไชน่าเวิลด์ ตั้งแต่ถนนพาหุรัด ถึงถนนบูรพาภิรมย์ เวลาทำการค้า 10.00 น.-18.00 น. ผู้ค้า 48 ราย 4.ถนนตานี ตั้งแต่ถนนตานีตัดถนนจักรพงษ์ ถึงถนนสิบสามห้าง เวลาทำการค้า 08.00 น.-18.00 น. ผู้ค้า 228 ราย 5.ถนนไกรสีห์ (เช้า) ตั้งแต่ถนนไกรสีห์ ถึงถนนสิบสามห้าง เวลาทำการค้า 05.00 น.-09.00 น. ผู้ค้า 53 ราย ถนนไกรสีห์ (กลางวัน) ตั้งแต่ถนนไกรสีห์ ถึงถนนสิบสามห้าง เวลาทำการค้า 10.00 น.-18.00 น. ผู้ค้า 172 ราย 6.ถนนแพร่งนรา ตั้งแต่ถนนอัษฎางค์ ถึงถนนตะนาว เวลาทำการค้า 08.00 น.-17.00 น. ผู้ค้า 17 ราย 7.ถนนสามเสน ตั้งแต่แยกเทเวศร์ ถึงถนนสามเสนซอย 2 เวลาทำการค้า 18.00 น.-24.00 น. ผู้ค้า 13 ราย 8.ถนนอัษฎางค์ ตั้งแต่ถนนพระพิทักษ์ ถึงถนนเจริญกรุง เวลาทำการค้า 10.00 น.- 18.00 น. ผู้ค้า 43 ราย ส่วนพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 50 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 1,740 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image