วันที่ 27 พฤศจิกายน นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ) พบว่าเวลานี้อุณหภูมิน้ำทะเลในบริเวณทะเลจีนใต้ได้เริ่มอุ่นขึ้นมาอีกประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ผลที่ตามมาคือ เกิดพายุโซนร้อนขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ ชื่อว่า “โทกาเงะ” (TOKAGE) ได้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านประเทศฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้แล้ว จากนั้นจะปะทะกับความกดอากาศสูงกำลังแรงที่แผ่ลงมาทำให้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวเป็นทิศตะวันออกค่อนไปทางใต้เข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่างต่อไป
“ทั้งๆ ที่ปกติแล้วช่วงเวลานี้ของทุกปี น้ำทะเลควรจะเย็นลงกว่านี้แล้ว ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดบ่อยนัก เป็นเหตุให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน อากาศไม่เย็นลงจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ รวมทั้งยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ซึ่งดูจากแบบจำลองวาฟแล้ว คาดการณ์ว่าความแปรปรวนเช่นนี้น่าจะยังคงเป็นอยู่อีกราวๆ 7 วันเป็นอย่างน้อย นอกจากนี้ ต้องเฝ้าระวังลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ความสูงของคลื่นประมาณ 1-2 เมตร” นายรอยลกล่าว
นายรอยลกล่าวว่า คาดว่าช่วงวันที่ 27-29 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกในบางแห่งของภาคเหนือตอนล่างและด้านตะวันตกของภาคกลาง ประกอบกับพายุโซนร้อน “โทกาเงะ” ได้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านประเทศฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้แล้ว จากนั้นจะปะทะกับความกดอากาศสูงกำลังแรงที่แผ่ลงมา ทำให้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวเป็นทิศตะวันออกค่อนไปทางใต้ ทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง
นายรอยลกล่าวว่า ตรวจสอบจากวาฟ ยังพบว่าช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายนถึง 3 ธันวาคม บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนลดลง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุโทกาเงะจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง ทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทั้งนี้ เฝ้าติดตามหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยอาจเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมตอนบนของประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก
