สำหรับบรรยากาศช่วงเย็น พสกนิกรยังหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะตัวจะอยู่ไกลหรือประกอบอาชีพไหนก็ไม่หวั่น ยังเข้าแถวรอคิวอย่างใจจดใจจ่อ น.ส.ศิริญญา แก้วมณี อายุ 34 ปี ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวทั้งน้ำตาว่า คิดถึงในหลวงมากติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์อยู่เสมอ อย่างภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาด้วยในวันนี้เป็นภาพจากปฏิทินขณะท่านทรงงาน ไม่ว่าเห็นเมื่อไหร่ก็รู้สึกปลาบปลื้มทุกครั้ง เมื่อทราบข่าวว่าพระองค์ทรงมีอาการพระประชวรก็ติดตามข่าวเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม ตัวเองกำลังดูแลผู้ป่วยอยู่พอเห็นประกาศสำนักพระราชวังว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดลุยเดชเสด็จสวรรคต ก็รู้สึกใจหายมาก ตัวเองเห็นพระองค์ทรงงานมาตั้งแต่เด็ก จึงน้อมนำพระราชดำริมาปรับใช้กับการประกอบอาชีพ ทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อคนไข้ ยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง
ด้าน นางรำไพ คลองยศ อายุ 41 ปี กล่าวว่า เดินทางจาก จ.สมุทรปราการมาตั้งแต่ 23.00 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้เข้ากราบสักการะ เมื่อได้เข้ามากราบก็รู้สึกภูมิใจ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทำให้ลูกๆ ชาวไทยอยู่ดีกินดีอย่างมีความสุข เห็นภาพพระองค์ทรงงานเป็นต้นแบบ ทำงานก็รู้สึกไม่เหนื่อยเลย เพราะพระองค์ทรงงานหนักกว่าเรามาก นอกจากนี้ยังยึดถือเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน มีน้อยใช้น้อยมีมากใช้น้อย พร้อมทั้งสอนลูกให้ดูพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นตัวอย่าง
นางครองขวัญ ขุนจันทร์ อายุ 54 ปี ชาวหาดใหญ่ เดินทางจากจ.สงขลา ด้วยเครื่องบินและมาถึงท้องสนามหลวงประมาณ 02.00 น. กล่าวว่า มีอาชีพค้าขายไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์จึงไม่ทราบข่าวว่าพระองค์ประชวรหนัก เช้าวันที่ในหลวงเสด็จสวรรคตยังไปปลุกลูกสาวต่อว่าว่าในหลวงประชวรทำไมไม่บอกแม่ ก่อนออกไปค้าขายตามปกติ จนกระทั่งช่วงเย็นมีเด็กที่รู้จักวิ่งมากอดแล้วร้องไห้บอกว่าในหลวงสวรรคตแล้ว ก็ร้องไห้เสียใจคิดว่าในชีวิตยังไม่เคยทำอะไรเพื่อพระองค์เลย และตั้งใจนับแต่นั้นว่าอยากมากราบสักการะสักครั้งในชีวิต หากเข้ากราบไม่ได้ขอให้ได้มาเหยียบแผ่นดินบริเวณนี้ก็ยังดี ตอนต่อแถวไม่รู้สึกเหนื่อยหรือร้อนแม้แต่น้อย ไม่หิว ไม่อยากเข้าห้องน้ำ พอได้ขึ้นกราบพระองค์ก็รู้สึกเป็นบุญกุศลของชีวิต ทุกวันนี้ตั้งใจดำรงชีวิตโดยพยายามไม่เบียดเบียนผู้อื่น และทำความดีเล็กๆ น้อย เช่น ไม่ทิ้งขยะลงพื้นและมีวินัยบนท้องถนน เป็นต้น
