ทส.ชี้ปม ‘อธิบดีอุทยานฯ’ เรียกรับส่วย สรุป ‘มีมูลผิดจริง’ สอบวินัยต่อ 30 วัน โทษสูงไล่ออก

“กก.สอบสวนข้อเท็จจริง ทส.” ปมอธิบดีอุทยานฯเรียกรับส่วย สรุปผลผิดวินัยเรียกรับเงินจริง “ปลัด ทส.” ตั้ง “เถลิงศักดิ์” รองปลัดเป็น กก.สอบสวนวินัยต่อ กรอบการทำงานใน 30 วัน ชี้โทษสูงสุดไล่ออก ส่วนจะสาวถึงตัวใหญ่หรือไม่เป็นหน้าที่ตำรวจ

เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในสังกัด แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรฯให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในวันเดียวกัน และมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 28 ธ.ค.

โดยมีข้อสรุปเบื้องต้นให้อธิบดีกรมอุทยานฯมาช่วยราชการกระทรวงทรัพยากรฯ แต่เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นายรัชฎาไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงจึงไม่ได้มีการออกคำสั่งดังกล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตนเป็นประธาน มีหน้าที่หาข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน โดยนำเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ปรากฏในสื่อมวลชน ผู้ที่ปรากฏชื่อรวมทั้งนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และนายรัชฎา มาชี้แจงข้อมูลแล้ว

โดยนายรัชฎาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และจะนำเอกสารอธิบายข้อกล่าวหาซึ่งจะต้องมายื่นให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ชุดของตน ภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้

นายกุศลกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพิจารณาข้อมูลการจับกุมของตำรวจในบางส่วน ก่อนสรุปรายงานและส่งให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ รับทราบ ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีมูลความผิดทางวินัย ในการเรียกรับเงินจริง ส่วนรายละเอียดในการสอบสวนคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยนายจตุพรได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวยวินัยร้ายแรงนายรัชฎา ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการทำงานตามระเบียบข้าราชการพลเรือน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าใครเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ในการดำเนินการ แต่เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากจึงอาจขยายระยะเวลาได้

เมื่อถามว่า จะมีผู้เกี่ยวข้องที่เหนือกว่านายรัชฎาหรือไม่นั้น นายกุศลกล่าวว่า ไม่ทราบ จะทราบก็ต่อเมื่อได้มีการดำเนินคดีทางอาญา เมื่อถึงวันนั้นก็คงจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้องจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกระทรวง กระทรวงทรัพยากรฯซึ่งมีหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงและลงโทษทางวินัยเท่านั้น ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องของศาล เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ที่จะส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ โทษวินัยที่ก็มีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ จนถึงไล่ออก

เมื่อถามว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ที่จะพบเงินหลักล้านในห้องอธิบดี นายกุศลกล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพบเงินจำนวนมากในห้องอธิบดี เพราะสมัยนี้คนส่วนใหญ่ใช้เครดิตการ์ดแทนเงินสดกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ลงนาม แต่งตั้ง นายเถลิงศักดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายรัชฎา ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ นายเถลิงศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า เพิ่งเห็นคำสั่งแต่งตั้ง จึงยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากนัก แต่ในเบื้องต้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อหากรอบแนวทางในการสอบสวนทางวินัยนายรัชฎา โดยจัดแผนว่าจะเชิญใครมาสอบสวนหรือให้ข้อมูลในวันเวลาใดบ้าง และกรอบการทำงานจะมีแนวทางอย่างไร โดยคำสั่งนี้มีกรอบระยะเวลาในการทำงานภายใน 30 วัน ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่ ตอนนี้คงบอกอะไรมากไม่ได้ ต้องรอผู้เกี่ยวข้องก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image