กรมอุทยานฯร้องจ๊าก ก.ก.ถ.ขอส่วนแบ่งเพิ่มจาก 5% เป็น 40% อธิบดีลั่นให้ไม่ได้ ภาระเยอะ

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบให้เสนอกระทรวงมหาดไทย แก้ไขกฎกระทรวงฯ ให้แบ่งเงินรายได้ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) จากเดิมร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 40 โดยจะทำให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 679 แห่ง จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติและตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 ซึ่งกรมอุทยานจัดเก็บได้กว่าปีละ 1,000 ล้านบาท เข้าสู่ท้องถิ่นของตนเองทันที

มีรายงานด้วยว่าในคราวการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 ได้พิจารณาเห็นว่า กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 ออกตามความใน พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 ซึ่งกำหนดให้แบ่งเงินในอัตราร้อยละ 5 ของเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติใน อบต.ใด แก่ อบต.นั้น ทุกแห่ง แห่งละเท่ากันนั้น ได้ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2541 ประกอบกับปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะ อบต. มีภารกิจและหน้าที่ที่จะต้องจัดบริการสาธารณะในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่รายได้ของ อบต.ไม่สอดคล้องกับภารกิจและหน้าที่ที่ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และถ่ายโอน จึงได้เสนอต่อคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) พิจารณาให้ความ เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.สภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 เพื่อแบ่งเงินรายได้ที่เก็บตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ จากค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติจากอัตราร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 40 ตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของ คณะอนุกรรมการฯ เห็นควรให้ปรับสัดส่วนเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ.2541) ออกตามความใน พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537

นอกจากนั้นยังเห็นควรให้เปลี่ยนแปลงวิธีการรับมอบเงินที่เก็บได้ว่าด้วยอุทยานแห่งชาติฯ ในแต่ละปีงบประมาณ จาก “ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) รับมอบเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติเป็น 4 งวด ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ มท.จะตกลงกัน และเมื่อ มท.ได้รับมอบแล้วให้แบ่งแก่ อบต.ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินตามงวดนั้น” เป็น “ให้กรมอุทยานฯ จัดสรรเงินตามส่วนแบ่งให้ อบต. ตามที่ อบต. แต่ละแห่ง ในพื้นที่ได้รับโดยให้จัดสรรเป็นรายเดือน”

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอของ ก.ก.ถ.เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกรมอุทยานฯเลย และเอามาบังคับอะไรกับกรมอุทยานฯไม่ได้ด้วย เนื่องจากกรมอุทยานฯนั้นสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะทำเรื่องแบบนี้ได้ก็ต้องได้รับคำสั่งจาก พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.เท่านั้น

Advertisement

“ความจริงแล้วทางองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอยากจะได้อะไร อยากให้อุทยานทำอะไร หรือขอความร่วมมืออะไร ควรจะมาพูด มาหารือกัน ไม่ใช่ไปประชุมแล้วยื่นข้อเสนอมาแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อุทยานทำให้ไม่ได้เลย สำหรับส่วนแบ่ง 5% ที่อุทยานแบ่งให้จากรายได้ทั้งหมดให้แต่ละ อบต.นั้น เหมาะสมดีแล้ว ซึ่งเงิน 5% ดังกล่าวก็แล้วแต่ว่าแต่ละ อบต.จะเอาไปทำอะไรบ้าง แต่ลำหรับเงินรายได้ของกรมอุทยานฯทั้งหมดนั้น มีแผนการจัดการชัดเจน ในรูปแบบของคณะกรรมการว่าต้องเอาไปทำอะไรบ้าง ซึ่งหลักๆ ก็คือ เอามาพัฒนาอุทยาน เช่น ซ่อมบ้านพัก ห้องสุขา จัดการระบบกำจัดขยะในพื้นที่ ดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งที่เห็นตัวเลขว่ามีบางอุทยาน 1-10 มีรายได้เยอะนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีอุทยานในความดูแล 148 แห่ง ใช่ว่าทุกแห่งจะมีรายได้ดีทั้งหมด ส่วนที่มีรายได้ดี เงินรายได้ก็ต้องไปถัวเฉลี่ยดูแลอุทยานที่มีรายได้น้อยด้วย” นายธัญญากล่าว

เมื่อถามว่า หากทาง ก.ก.ถ.จะมาอ้างว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติอยู่ในเขตบริหารส่วนท้องถิ่น ดังนั้น อุทยานจะต้องแบ่งเงินรายได้ให้ อบต.นั้นๆ ด้วยเรื่องนี้ฟังขึ้นหรือไม่ นายธัญญากล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดว่าทรัพยากรในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นของกรมอุทยานฯเลย แต่ทรัพยากรเป็นของคนไทยทุกคน และแต่ละคน แต่ละองค์กรก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำแตกต่างกัน กรมอุทยานฯมีหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสมบัติของทุกคน และเงินรายได้อุทยาน ที่อุทยานแบ่งให้ท้องถิ่นละ 5% ถือเป็นความเหมาะสมดีแล้ว 40% ถือว่ามากเกินไป จะเอาที่ไหนให้ เพราะอุทยานมีภาระที่จะต้องนำไปใช้อีกมากมาย

มีรายงานว่าข้อมูลจากรายงานประจำปีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ.2558 ปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีรายได้จากอุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศ ในช่วงระยะเวลา ปี 2554-2558 ดังนี้ ปี 2554 จัดเก็บรายได้รวมกว่า 496,500,109.99 บาท ปี 2555 จัดเก็บได้ 547,366.802.65 บาท ปี 2556 จัดเก็บได้ 662,739,340.34 บาท ปี 2557 จัดเก็บได้ 696,319,219.22 บาท ปี 2558 จัดเก็บได้ 896,829,343.39 บาท ปี 2559 (ตุลาคม 2558- สิงหาคม 2559) 1,963.695 ล้านบาท มากกว่าปี 2558 ถึง 1,067 ล้านบาท และได้แบ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมบำรุงอุทยานแห่งชาติ จัดสรรให้แก่ อบต. ตามกฎกระทรวงดังกล่าว โดยในปี 2558 ได้จัดสรรให้แก่ อบต.ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 679 แห่ง เป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image