วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า เดิมทีกทม. มีคณะกรรมการพิจารณาทรัพย์สินของกทม. ทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของกทม. เนื่องจากมีทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่ได้รับก่อนที่กทม.จะได้รับการโอนมาจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ตั้งแต่เมื่อเป็นเทศบาล เช่น ทรัพย์สินครุภัณฑ์และทรัพย์สินที่ดิน ซึ่งนับวันจะยิ่งมี จำนวนมากขึ้น เนื่องจากการจัดซื้อในแต่ละปีตามเงื่อนไขของการจัดซื้อครุภัณฑ์ คือ ต้องขายทรัพย์สินที่เสื่อมสภาพตามอายุ เพื่อให้กทม.มีงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์อีก
“เฉพาะที่ดินนั้น กทม.มีเยอะมาก เช่น กรณีที่ดินบริเวณ อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี ที่มีการสร้างศูนย์พักพิงสุนัข หรือที่ดิน บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน อยู่ อ.นครชัยศรี จ. นครปฐม ซึ่งในอดีต มีทั้งที่ดินที่เป็นของบริษัทสหสามัคคีค้าสัตว์ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นบริษัทกรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกทม. อีกส่วนคือ ที่ดินที่ได้รับโอนจากสมัยยังเป็นเทศบาลอย่าง บริเวณที่จอดรถ บริเวณบางลำภู และ สวนมะลิ รวมถึงบัญชีทรัพย์สินที่ได้รับการโอนมาจากสำนักป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัย เช่น อาคาร การได้รับโอนรถดับเพลิง สถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจ เป็นต้น”นางวรรณวิไล กล่าว
รองผู้ว่ากทม.กล่าวว่า ที่ดินแปลงยักษ์ของกทม.ที่เป็นพื้นที่ที่สวยงามที่สุดคือ หอศิลปวัฒนธรรมของกทม. ซึ่งปัจจุบัน กทม. ใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ จะต้องไปกระตุ้นในทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกแห่งคือ สนามฟุตซอล บางกอก อารีน่า หนองจอก สนามฟุตซอลแห่งนี้หากเทียบความยิ่งใหญ่เทียบเท่าสนามคริกเก็ตดิโอวัล ในประเทศอังกฤษเลยทีเดียว เพราะมีทุกอย่างครบวงจร ซึ่งกทม.ก็จะต้องไปดู และจัดการทุกอย่างให้ลงตัวตามผลประโยชน์กทม.เอง
