อดีตทหารวัย 84 ปีน้อยใจลูกสาว หายจากบ้าน 7 เดือน พบเป็นโครงกระดูกอยู่ในป่าละเมาะ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ 28 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายวัลลภ ภู่ทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ว่ามีชาวบ้านเข้าไปหาเห็ดในป่าพื้นที่หมู่ 9 ตำบลปากแพรก ด้านหลังหมู่บ้านจิรกาญจน์ แล้วพบโครงกระดูกมนุษย์ในสภาพมีเสื้อผ้าสวมใส่ถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์

ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะรกทึบ พบโครงกระดูกมนุษย์ บริเวณกะโหลกศีรษะ กระดูกสะโพก ซี่โครงแขนขาหลายชิ้นกระจัดกระจายอยู่ โดยมีเสื้อผ้าสวมทับโครงกระดูกไว้อีกที เจ้าหน้าที่จึงทำการถางต้นไม้และวัชพืชในบริเวณดังกล่าวออก ก็พบว่ามีกระเป๋าหนึ่งในอยู่ไม่ห่างจากโครงกระดูก ภายในกระเป๋าพบเสื้อวอร์มสังกัดกองทัพบกและกระเป๋าเงินภายในพบบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อ ร้อยตรียศ อุบลรัตน์ อายุ 84 ปี ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าตรงกับชื่อบุคคลที่ถูกแจ้งหายไว้ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี จึงได้โทรศัพท์ติดต่อลูกสาวของผู้เสียชีวิตมาดูศพ เมื่อ นางสาวรัตนา สะท้อนดี ลูกสาวของผู้เสียชีวิตมาถึงก็ถึงกับร้องไห้ออกมา เนื่องจากจำเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตที่ใส่ในวันที่หายตัวไปได้ดี

จากการสอบถาม นางสาวรัตนา เล่าว่า ตนและร้อยตรียศ ผู้เสียชีวิตเป็นพ่อลูกกัน โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 101/441 ภายในหมู่บ้านจิรกาญจน์ ซึ่งห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 100 เมตร ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนกับพ่อได้ทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขที่เลี้ยงไว้ ทำให้พ่อเกิดอาการน้อยใจและหายออกจากบ้านไปในช่วงสาย ตนได้ออกตามหาตามบ้านคนรู้จักของพ่อ รวมถึงจ้างคนงานให้ช่วยออกตามหาและไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ก่อนจะทำใบปลิวออกแจกจ่ายและตามหาพ่อมาตลอดเป็นเวลากว่า 7 เดือนแต่ก็ยังไร้วี่แวว กระทั่งได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูศพและก็พบว่าเป็นพ่อของตนจริงๆ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดอาการน้อยใจลูกสาว จึงเก็บเสื้อผ้าแล้วปีนกำแพงหลังบ้านออกมาทางป่าละเมาะดังกล่าว แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตอายุมากและเป็นโรคหัวใจ จึงอาจจะเกิดหัวใจวายอยู่ภายในป่าโดยไม่มีใครเห็นและเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่หนีออกจากบ้าน กระทั่งมีคนหาเห็ดมาพบโครงกระดูกและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เก็บรวบรวมโครงกระดูกส่วนต่างๆ ส่งสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image