ข้าราชการเกษียณอายุชาวแก่งคร้อ เผย น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จนปลดหนี้สินหมด

นางประเทือง สมทรัพย์

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน บรรยากาศช่วงบ่ายถึงเย็นพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศยังคงเดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอากาศในช่วงบ่ายจะร้อนอบอ้าวและมีแดดแรง แต่ประชาชนก็คงไม่ย่อท้อยังคงทยอยเข้าแถวต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ

S__4489258

นางประเทือง สมทรัพย์ อายุ 69 ปี ข้าราชการเกษียณอายุ อ.แก่งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว และเพื่อนบ้าน จำนวน 13 คน ด้วยรถตู้ 1 คัน เผยว่า เดินทางมาจาก อ.แก่งคร้อ ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายนถึงพระบรมมหาราชวังประมาณเวลา 03.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน จากนั้นรอประมาณ 8 – 9 ชั่วโมงจึงได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งรู้สึกปลาบปลื้มปีติหัวใจมาก ที่ครั้งหนึ่งได้มากราบสักการะพระองค์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากกว่าจะเดินทางมาได้ค่อนข้างลำบากมาก ไม่มีคนพามา และตนเองก็อยู่ไกล

“ในวันที่ 13 ตุลาคม เมื่อทราบว่า พระองค์สวรรคต ยายเองก็รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้ทุกครั้ง เมื่อมีการฉายสารคดีนำเสนอพระราชกรณียกิจ นั่งพับเพียบ พนมมือ และก้มลงกราบพระองค์ เมื่อมีการถ่ายทอดสด ผ่านโทรทัศน์ อยากจะมาที่พระบรมมหาราชวังใจจะขาด แต่ก็ไม่สามารถมาได้ เนื่องจากยายอยู่ไกล และแก่แล้ว เฝ้าถามเพื่อนบ้าน คนรู้จัก คนในครอบครัว ตลอดว่าจะมีใครมากราบพระบรมศพ รึเปล่า จนกระทั่ง มีเพื่อนบ้านจัดรถมาพอดี จึงได้โอกาสมา ซึ่งก็รู้สึกดีใจมากที่จะได้ส่งเสด็จพระองค์ ทำความฝันตนเองให้เป็นจริงด้วย” นางประเทืองกล่าว

Advertisement

นางประเทือง กล่าวว่า ความรู้สึกแรกเมื่อได้เข้ากราบพระบรมศพ รู้สึกตื้นตันใจ และปีติยินดีในหัวใจมาก ที่ได้มากราบพระองค์ แต่ก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดหัวใจที่พระองค์สวรรคต น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ซึ่งนหากจะให้บรรยายมาเป็นความรู้สึกที่มีภายในหัวใจในตอนนั้น คงบรรยายออกมาเป็นคำพูดที่ยากมาก

“ครั้งหนึ่งในชีวิต ยายได้มีโอกาสไปรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่เสด็จฯ มาทรงเปิดเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งแม้ว่าจะหากจากอ.แก่งคร้อ ประมาณ 45 กิโลเมตร แต่ยายก็สู้ เพราะในช่วงชีวิตนี้ คงมีไม่กี่ครั้งนักที่ราษฎรคนหนึ่งจะได้เฝ้าฯ รับเสด็จพระมหากษัตริย์ ซึ่งเมื่อได้รับเสด็จ ยายก็รู้สึกฉุ่มชื่นหัวใจมาก ไม่ว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่ยายก็จนจำได้ดีถึงตอนนี้” นางประเทือง กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ

นางประเทือง กล่าวอีกว่า เมื่อตนเองเกษียณอายุราชการแล้ว ตอนนั้นได้เงินบำเหน็จประมาณ 3 แสนบาท ก็ยังมีหนี้สินอยู่จำนวนมาก หลังจากนั้นตนจึงน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกผัก เลี้ยงไก่ ในพื้นที่ 4 ไร่ โดยนำผลผลิตที่ได้มาใช้กินเป็นหลัก อยู่อย่างพอเพียง ส่วนที่เหลือก็ส่งขาย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีรายได้เพิ่มเติม จนในตอนนี้ สามารถปลดหนี้สินที่เป็นอยู่ได้หมด

Advertisement

S__4489259

นางช่อฟ้า เซียงเจ๊า อายุ 84 ปี ที่เดินทางมาจากเขตบางแค กรุงเทพฯ พร้อมกับสมาชิกในครอบครัว 7 คน เผยด้วยความซาบซึ้งว่า เดินทางกับครอบครัวมาถึงพระบรมมหาราชวังประมาณ 11.30 น. รอประมาณ 7 ชั่วโมง จึงได้เข้ามากราบสักการะพระบรมศพ แต่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด ถึงจะเหนื่อยสักเพียงใด ตนก็ยอมได้เพื่อมาสักการะพระบรมศพพ่อหลวง โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตนได้มา ตั้งใจว่า หากมีโอกาสก็จะมาอีกเรื่อยๆ เนื่องจากต่อไปคงไม่มีอีกแล้วที่จะได้ทำเช่นนี้ ซึ่งแม้ว่าตลอดทั้งชีวิตของตนจะไม่ได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์เลย แต่ก็รู้สึกรักและผูกพันกับพระองค์อย่างมาก

“ทุกครั้งที่ได้เห็นข่าวของพระองค์ทางโทรทัศน์ ก็น้ำตาไหล ยายรักพระองค์มาก เพราะพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ดี พระองค์ทรงงานหนักเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่ทรงห่วงพระองค์เองเลย พ่อแม่ของยายอพยพมาจากประเทศจีน มาอาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นโชคดีของยายที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย และเกิดในรัชสมัยของพระองค์” นางช่อฟ้า กล่าว

ช่อฟ้า
นางช่อฟ้า เซียงเจ๊า

นางอิสริยา สันติวงศ์สถิตย์ อายุ 38 ปี ผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชาไอสไตน์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เดินทางพร้อมสามีและลูกสาว 2 คน กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากสนามบินหาดใหญ่ ประมาณเวลา 08.00 น.ถึงสนามหลวงเวลา 11.00 น. และได้เข้าสักการะพระบรมศพประมาณ 17.30 น. ตอนที่รอก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะตั้งใจจะมาสักการะพระบรมศพสักครั้งในชีวิตและอยากจะพาลูกๆ มากราบสักการะพระองค์ด้วย ลูกๆ ก็ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มาวันนี้ ตนและครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อดูแลคนไทยทั้งประเทศ ตนก็ได้สอนลูกให้รู้จักพระองค์และบอกถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงทำให้ประชาชน พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่งดงามให้ประชาชนเดินตามรอยพระยุคลบาททวันนี้ตนเห็นประชาชนมากันมากมาย ทำให้ตนปลาบปลื้มใจมากที่ทุกคนมีความรักต่อพระองค์

“ตอนที่ดิฉันเป็นครูของโรงเรียนแสงทองวิทยา อ.หาดใหญ่ ได้พานักเรียนชั้นมัธยมศึกษามาดูโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา จำนวน 4 ครั้ง ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพมากและสร้างโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันอยากจะสร้างโรงเรียน เพื่อสร้างเด็กและเยาวชนที่ดีและมีคุณภาพคืนให้แก่แผ่นดิน เพื่อให้เขาได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ” นางอิสริยากล่าวด้วยความตื้นตัน

นายสุรชัย สันติวงศ์สถิตย์ อายุ 39 ปี สามีนางอิสริยา กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยก็อยากที่จะมากราบสักการะพระองค์ สักครั้งในชีวิต เพราะเพระองค์ ทรงอุทิศพระวรกาย ตรากตรำ ทรงงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาชน มีความอยู่ดีกินดี ทรงเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ประชาชนในการดำรงชีวิต ตั้งแต่เกิดมาก็ได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจตลอด คงไม่มีกษัตริย์จะทำเพื่อประชาชนเท่านี้อีกแล้ว

นางอิสริยา - นายสุรชัย
นางอิสริยา-นายสุรชัย สันติวงศ์สถิตย์

S__4489260

S__4489261

S__4489263

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image