แพะน้องชายติดคุกฟรี 5 ปี พี่ชายโร่ขอยธ.ฟื้นคดีใหม่ยันตร.จับผิด รับเป็นผู้ต้องหา’ข่มขืน-พรากผู้เยาว์’

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ร่วมกับชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาคดีข่มขืนและพรากผู้เยาว์ผิดตัว กรณีการจับน้องชายที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับคนร้ายที่เป็นพี่ชาย จนศาลพิพากษาตัดสินให้น้องชายจำคุก 20 ปี

พ.ต.อ.ดุษฏี กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเนื่องจากนายสมภพ กนกมุสิกะกุล พี่ชาย นายกิมจั๊ว กนกมุสิกะกุล น้องชายซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 20 ปี โดยมีการต่อสู้คดีกันมาตั้งแต่ปี 2551 ปัจจุบันถูกจำคุกมาแล้ว 5 ปี จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่าน้องชายนายสมภพไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ โดยวันนี้มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่าคนร้ายตัวจริงคือพี่ชายและพี่ชายพร้อมรับโทษที่ก่อขึ้น โดยมีหลักฐานพร้อมที่จะยื่นรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาคดีใหม่แล้ว
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า วันนี้นายสมภพต้องการขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมช่วยรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เนื่องจากน้องชายไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ทั้งนี้ที่ผ่านมา นายสมภพได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางกรวย แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้งความ ทางกระทรวงยุติธรรมจึงร่วมกับสำนักนิติวิทยาศาสตร์ตรวจหาข้อเท็จจริงจากเบอร์โทรศัพท์ที่นายสมภพเขียนให้กับเด็กที่ถูกพรากผู้เยาว์ พบว่าเป็นลายมือของนายสมภพ ไม่ใช่ของนายกิมจั๊ว นั่นยืนยันแล้วน้องชายเขาไม่ใช่ผู้ต้องหาตัวจริง อีกทั้งใบหน้าก็ไม่ได้มีความคล้ายคลึงกัน อีกทั้งดีเอสไอยังมีการใช้เครื่องจับเท็จตรวจสอบอีกด้วย

“จากนี้จะให้กรมคุมประพฤติตรวจสอบนิสัยใจคอของผู้ต้องหาและน้องชาย เนื่องจากพบว่าคนหนึ่งมีความเบี่ยงเบนทางเพศและอีกคนหนึ่งมีครอบครัว จากนั้นจะให้กองทุนยุติธรรมยื่นเรื่องกับศาลเพื่อรื้อฟื้นเป็นคดีอาญาคาดว่าจะยื่นเรื่องภายในเดือนนี้ ทั้งนี้จะมีการตรวจสอบคดีดังกล่าวย้อนหลังด้วย” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว

นายสมภพ กล่าวว่า ตนเป็นผู้กระทำผิดจึงพร้อมจะมารับผิด เพราะน้องชายไม่ใช่ผู้กระทำผิด ที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความกับตำรวจโดยสารภาพว่าเป็นผู้ทำผิด แต่ไม่รับแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าจะไปรับผิดแทนน้องชาย จึงต้องเข้าร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ และยืนยันว่าตนไม่ได้มีใบหน้าเหมือนกับน้องชายเลย ทั้งนี้วันที่ตำรวจเข้าจับกุมน้องชายที่บ้านของตน ตำรวจได้นำบัตรประชาชนของน้องชายไปให้กับผู้เสียหายดู และชี้ว่าเป็นคนทำอนาจาร แต่ที่จริงแล้วน้องชายไม่ใช่คนกระทำผิดแต่เป็นตนเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image