ปชช.ขอถวายกำลังใจ ‘พระองค์ภาฯ’ ต่อที่ รพ.จุฬาฯ แม้ปิดลงนามถวายพระพรแล้ว
ตามที่ สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร โดยทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 และเปิดลงนามถวายพระพร ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 รวมเปิดลงนามถวายพระพร ทั้งสิ้น 47 วัน จากนั้นสามารถลงนามถวายพระพรผ่านระบบช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ https://wellwishes.royaloffice.th ได้ทุกวันนั้น
เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีหน่วยงาน องค์กร คณะบุคคล และประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางมาลงนามถวายพระพรและนำแจกันดอกไม้มาถวาย เบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อขอให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็ว อาทิ พล.อ.ต.ศรสิต กีรติพล เจ้ากรมพลาธิการทหารอากาศ, นายพอลล์ กาญจนพาสน์ บางกอกแลนด์จำกัด (มหาชน) อิมแพคเมืองทองธานี และบริษัทในเครือ, พล.อ.ต.ณัฏฐอรรจน์ ถวิลหวัง นายกสมาคมมิตรภาพไทย-ลาว, โรงเรียนสมปองวิทยานุสรณ์, โรงเรียนอนุบาลเปล่งประสิทธิ์สายลม, สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนวัดนวลนรดิศ
สมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย, สโมสรโรตารี่ ราษฎร์บูรณะ, ชมรมครูสูงอายุราษฎร์บูรณะ, พว.นันทา มหัธนันท์ อุปนายกสมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย, สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย, ผู้บริหารเทศมนตรีนครเชียงใหม่, นางเอมอร ศรีวัฒนประภา กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์, นางวรรณี เจียรวนนท์ รอสส์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน,
สำนักงานอัยการสูงสุด, บริษัท dragon world plus จำกัด, ไทยอาสาป้องกันชาติและอาสาสมัครบรรจุถุงยังชีพ พระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภาฯยามยาก สภากาชาดไทย, บริษัทสหฟาร์ม จำกัด บริษัทในเครือ จ.นครสวรรค์ เป็นต้น
ขณะที่ บรรยากาศประชาชน ทยอยมาลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลจุฬาฯ วันสุดท้าย หลายคนพร้อมใจใส่เสื้อสีเหลือง สีส้ม
นางมณีรัตน์ เลาวเลิศ อาชีพแม่บ้าน มาจากสมุทรสาคร เป็นหนึ่งในประชาชนที่มาเฝ้าถวายกำลังใจแทบทุกวัน ถือโอกาสเปิดลงนามถวายพระพรวันสุดท้าย ถวายแจกันและลงนามถวายพระพร กล่าวว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันมาได้เกือบทุกวัน เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักเพื่อคนไทย ดิฉันจึงเริ่มติดตามเฝ้าฯรับเสด็จ ตั้งแต่ทรงพระประชวร และประทับรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เรื่อยมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน หลายครั้งพาลูกๆ มาด้วย เขาก็ซึมซับและรักสถาบันเหมือนกับดิฉัน
นางมณีรัตน์กล่าวอีกว่า ส่วนพรุ่งนี้ไม่มีเปิดลงนามถวายพระพรแล้ว ดิฉันก็อยากมาถวายกำลังใจต่อ ทราบว่าประชาชนคนอื่นๆ ที่มาถวายกำลังใจก็จะมาเช่นกัน เพราะพวกเรายังห่วงพระองค์และจะรอรับทราบข่าวดีจากสำนักพระราชวังว่าพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรแล้ว ถึงจะไม่มา โดยจะหาที่นั่งแถวๆ นี้ และพยายามไม่รบกวนผู้มาใช้บริการโรงพยาบาล ส่วนตัวมาได้ทุกวัน ไม่ได้ทำงานแล้ว มีเงินเก็บจากการทำงานก่อนหน้านี้ และลูกๆ คอยเลี้ยงดู จึงมีเวลาเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถือว่า 45 วันที่มาถวายกำลังใจตลอด ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกเมื่อย เพราะความจงรักภักดีมีมากกว่าความรู้สึกนั้นๆ แม้วันไหนติดธุระ ทำธุระเสร็จก็ต้องมาให้ได้ แม้จะเป็นช่วงเย็นหรือช่วงค่ำที่ปิดลงนามถวายพระพรไปแล้ว เพราะรู้สึกเป็นห่วงพระองค์และคิดถึงเพื่อนๆ ที่มาเฝ้าถวายกำลังใจ
