ผู้การบุรีรัมย์ ชี้ให้เป็นกรณีศึกษากับตำรวจ กรณี หนุ่มวัย 25 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ สมัครทำงานต่างจังหวัดไม่ได้ เพราะพบประวัติในสารบบ ติดคดีกระสุนปืน หลังพบว่าตำรวจคีย์รายชื่อผิดลงไป ระบุถึงแม้จะเกิดจากความผิดพลาด แต่ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ กรณี นายพิชิตชัย อนันต์สุข อายุ 25 ปี ชาว ต.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เข้าไปร้องเรียนกับเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ว่าสมัครงานที่ไหนไม่ได้ เพราะมีประวัติทางคดีว่าครอบครองเครื่องกระสุนปืนทำเอง ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่บ้าน
ซึ่งต่อมานายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก จาก เพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พานายพิชิตชัย ไปร้องต่อกระทรวงยุติธรรม โดยมีว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มารับเรื่องร้องเรียน พร้อมจะให้ความเป็นธรรม หากมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่าไม่เคยกระทำความผิด
กรณีดังกล่าว สร้างความกังวลใจให้กับครอบครัวของนายพิชิตชัยเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถสมัครงานกับบริษัทเอกชนได้ เนื่องจากมีการออนไลน์ข้อมูลเชื่อมโยงกับหน่วยงานราชการ ทำให้ไม่มีบริษัทไหนกล้ารับเข้าทำงาน
ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.อนันต์ ทองบันเทิง ผกก.สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต้นทางคดี ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากพ่อของผู้ถูกกล่าวหามาร้องเรียน ได้มีการตรวจสอบ พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลคีย์รายชื่อผิดเข้าไปในระบบประวัติอาชญากรรม ซึ่งทาง สภ.หนองสองห้อง ได้ทำการลบชื่อออกไปแล้ว ก่อนที่นายพิชิตชัยจะไปร้องที่กระทรวงยุติธรรม
ล่าสุด พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายด้วย เพราะต้องเดือดร้อนด้านหน้าที่การงาน ต้องตกเป็นผู้มีคดีติดตัวทั้งที่ไม่เคยกระทำมาก่อน
กรณีนี้จะให้เป็นกรณีศึกษากับตำรวจทุก สภ.ให้ระมัดระวัง เนื่องจากปัจจุบัน ประชาชนมีชื่อและสกุลซ้ำกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องคัดกรองข้อมูลให้แม่นมากกว่านี้ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจภูธรจังหวัด ได้ตั้งคณะกรรมการให้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งยังจะเข้าไปเยียวยาผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจต่อไป