‘บิ๊กต๊อก’ ร่วมหารือ ‘ปิยะสกล’ เดินหน้าถ่ายโอนผู้เสพยาให้ สธ.ดูแล คาดใช้เวลา 3-5 ปี

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงยุติธรรมเรื่องการดำเนินงานยาเสพติด ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขครั้งที่12/2559 ประจำเดือนธันวาคม ว่า ทิศทางในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้นวันนี้จะมุ่งเน้นการบำบัดรักษาผู้เสพ โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักใหญ่ในการดูแลเรื่องนี้ เพราะตามหลักแล้วคนเสพยา ถือเป็นผู้ป่วยระบบสมอง ซึ่งต้องได้รับการบำบัดโดยแพทย์ เบื้องต้นคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี ในการเซ็ตระบบ และถ่ายโอนผู้เสพยาให้กระทรวงสาธารณสุข แต่ระหว่างนี้กระทรวงสาธารณสุขก็รับทราบและดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายที่เดี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นกฎหมายเดี่ยว มีหลายตัวหลายหน่วยงานดูแล ดังนั้นต้องเอาทั้งหมดมารวมกันแล้วดูว่าจะปรับอย่างไรเพื่อให้แพทย์สามารถใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดได้ เพราะกฎหมายปัจจุบันนั้นไม่สามารถทำได้เลย เรื่องนี้จึงต้องค่อยๆหารือกันไป

IMG_4834

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมาเน้นเรื่องการปราบปรามมากกว่าการป้องกัน ทำให้คนล้นคุก ล้นโรงพยาบาล หากไม่ทำอะไรเลยอาจจะต้องมีการสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม แต่สร้างเท่าไรก็ไม่พอ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับมาตรการ ซึ่งเห็นตรงกันว่า ผู้ติดยานั้นคือผู้ป่วยไม่ใช่ผู้ร้าย จึงต้องนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาเพื่อลดจำนวนผู้เสพลง ซึ่งมีทั้งรูปแบบการเข้ารับบำบัดแบบสมัครใจ และบังคับบำบัด โดยผ่องถ่ายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีกว่า 10,000 แห่ง ให้ดูแลเรื่องนี้ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ทางกระทรวงเองก็ต้องเตรียมเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังเบื้องต้นในระยะแรกจะขอดูที่ปริมาณงานก่อนว่ามากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้กระทรวงยังทำหน้าที่ในการออกแนวปฏิบัติในการบำบัดผู้ติดยาเพื่อให้กรมราชทัณฑ์ใช้เป็นแนวทางอีกด้วย

นายนิยม เติมศรีสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวว่า ในการเปลี่ยนผู้เสพยาเสพติดให้เป็นผู้ป่วยที่จะมีการปรับระบบการบำบัด รักษาและฟื้นฟูทั้งระบบนั้น กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้ของบประมาณจำนวน 600 ล้านบาท แต่เป็นการจัดการงบในระยะ 5 ปี ซึ่งงบจะมาจาก 3 ส่วน คือ 1.งบที่ไม่เร่งด่วน จะมีการนำงบที่ ป.ป.ส. มีอยู่มาปรับใช้ในเรื่องนี้ 2.งบของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ3.หากงบทั้ง 2 ส่วนไม่พอก็อาจขอเพิ่มจากงบกลางของรัฐบาล และในเชิงหลักการรัฐบาลก็เห็นด้วยและให้เดินตามนี้

Advertisement

IMG_4833

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image