“พิเชฐ” ประกาศกลางเวที ปรมาณูระหว่างประเทศ ไทยบังคับใช้กฏหมาย นิวเคลียร์เพื่อสันติ ก.พ.ปีหน้า

วันที่ 6 ธันวาคม นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ได้แถลงต่อที่ประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์กว่า 140 ประเทศ ณ ทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ว่า ประเทศไทยตระหนักและให้ความสำคัญต่อความท้าทายของความมั่นคงทางนิวเคลียร์ในปัจจุบัน ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไร ความมั่นคงทางกายภาพยิ่งต้องมีความเข้มแข็ง และความร่วมมือระหว่างประเทศควรได้รับการส่งเสริมเพื่อพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ รวมทั้งความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยได้แสดงท่าทีในการสนับสนุนสหประชาชาติในการดำเนินการด้านการลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับดำเนินงานตามพันธกรณีระหว่างประเทศในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในการส่งเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ล่าสุด ไทยจะมีการประกาศบังคับใช้ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ภายหลังจากมีผลบังคับใช้ ประเทศไทยก็จะสามารถเข้าร่วมพันธกรณีระหว่างประเทศในด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์และในประเด็นอื่นๆ ที่ยังคั่งค้างอยู่ได้

file-1(1)

นายพิเชฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ ประเทศไทยได้สร้างความร่วมมือระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติเพื่อส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ทั่วโลก เช่น การจัดการฝึกปฏิบัติร่วมระหว่างไทยและมาเลเซีย (Cross-border exercise) ในด้านการตรวจจับวัสดุนิวเคลียร์และสารกัมมันตรังสีที่อยู่นอกกฎหมายเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังริเริ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคย่อยระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ในภูมิภาคอาเซียน หรืออาเซียนตอม (ASEAN Network of Regulatory Bodies on Atomic Energy: ASEANTOM) รวมทั้ง ยังมีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนตอมและไอเออีเอ ภายใต้ความร่วมมืออาเซียนไอเออีเอ (ASEAN IAEA) อีกด้วย ที่สำคัญ รัฐบาลไทยยังได้ดำเนินกิจกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งในภาคอุตสาหกรรม สถาบันทางนิวเคลียร์ สถานศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดการเตรียมความพร้อมและจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์และสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที

Advertisement

ทั้งนี้ ในที่ประชุมดังกล่าว ได้มีการรับร่างร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นในการรักษาและสนับสนุนความมั่นคงทางนิวเคลียร์ในประเทศของตน รวมทั้งเสริมความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยผ่านไอเออีเอ หน่วยงานระหว่างประเทศ และข้อริเริ่มระหว่างประเทศอื่นๆ ทั้งยังยืนยันเป้าหมายร่วมกันของการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์และการลดอาวุธ ตลอดจนการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างปลอดภัย โดยการตระหนักว่าความมั่นคงทางนิวเคลียร์จะทำให้เกิดสันติในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่าการลดอาวุธจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดและจำต้องมีการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องในทุกเวที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image