เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณี พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.เทียนทะเล ผูกคอตายเสียชีวิตที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9(ผบก.น.9 )ตรวจสอบผู้ที่เผยแพร่ภาพการเสียชีวิตของ พ.ต.ท.จันทร์ ว่าในส่วนข้อเท็จจริงที่มีผู้นำเข้าระบบไลน์ ระบบคอมพิวเตอร์ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือมีการปลอมแปลงภาพถ่าย ซึ่งตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ มีบัญญัติไว้เป็นความผิดมาตรา14 อนุ1 หรือผู้เผยแพร่ส่งต่อจะมีความผิดตามมาตรา14 อนุ5 อัตราโทษไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ตรวจสอบดูว่าผู้ที่ส่งต่อรูปภาพมีเจตนาที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก็เข้าองค์ประกอบความผิด ต้องดำเนินคดี ซึ่งอยากให้พิจารณาด้วยเหตุและผล ให้เชื่อผลการตรวจพิสูจน์จากนิติวิทยาศาตร์
“ลูกน้องผมตายทั้งคน ผมเสียใจ ยิ่งกว่าหลายๆ คนอยู่แล้ว จะมาบิดเบือน ไม่เอาเรื่องเอาราว ผมขอลาออกดีกว่า ไม่ต้องมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะฉะนั้นผมยืนยันว่าต้องทำเรื่องนี้ด้วยความถูกต้องชอบธรรม ไม่มาบิดเบือนข้อเท็จจริงเพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร ก็รักลูกน้อง ใครมาทำลูกน้องไม่ได้ ไม่ต้องห่วง” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสสังคมเชื่อว่าอาจจะมีความกดดันทางคณะแพทย์ให้มีการบิดเบือนผลชันสูตร พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ไม่มีใครล่วงละเมิด ล่วงเกินหรือชี้นำความเห็นของแพทย์ได้ หากไม่เชื่อในวิชาชีพของแต่ละคนปัญหามันถึงเกิดขึ้น เมื่อถามกรณี พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ออกมาให้ความเห็นว่าการตายของ พ.ต.ท.จันทร์ มีเงื่อนงำนั้น ความเห็นของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ก็ขอน้อมรับไว้ แต่ขอยืนยันในผลตรวจทางนิติทางวิทยาศาตร์ ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ถามว่าในส่วนของการตรวจสอบสาเหตุการตายครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ยังไม่ครบถ้วน แม้ว่าไม่มีใครสงสัยสาเหตุการตายก็ต้องมีการสอบสวนให้สิ้นกระแสความ