สำหรับบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังตลอดช่วงบ่าย พสกนิกรยังคงเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง
นายเมลวิน เกอเรซ คุณครูสอนภาษาอังกฤษ ชาวฟิลิปปินส์ เดินทางมาพร้อมคณะครูร.ร.มะยมสรรเสริญ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ว่า บรรยากาศภายในช่างเงียบสงบและเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่ตนได้มาร่วมพิธีสำคัญของประเทศไทย ทำให้ตนรู้สึกตื่นเต้น พร้อมกับประหลาดใจถึงความงดงามภายในพระบรมมหาราชวังเป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เห็นคนไทยตั้งหน้าตั้งรอ เห็นขั้นตอนการสักการะพระบรมศพ ทำให้รู้สึกว่าตนก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกโศกเศร้าเสียใจไม่แพ้กัน เพราะตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ได้อยู่ประเทศไทยตนก็ได้รับความรู้สึกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความเมตตาต่อชาวต่างชาติไม่แพ้คนไทย
“ภายหลังการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเหมือนกษัตริย์ของผมเพราะผมก็ได้อาศัยอยู่ในเมืองไทย ผมรู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรให้แก่ประเทศบ้าง สะท้อนออกมาในสายตาชาวต่างชาติว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรักประชาชนของพระองค์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผมก็ติดตามข่าวสารของพระองค์ทุกวันทั้งหนังสือพิมพ์และทีวีภาษาอังกฤษ สุดท้าย ผมอยากบอกว่าประเทศไทยมีความคล้ายคลึงกับประเทศฟิลิปปินส์ แต่มีความพิเศษยิ่งกว่าคือวัฒนธรรมที่คนไทยได้รักษาไว้มาเนิ่นนาน และผมขอขอบคุณความอบอุ่น ใจดีและมีน้ำใจของคนไทยที่ได้มอบให้ผมตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา” นายเมลวิน กล่าว
ส่วนนางสาวจ่าง เมียว เมียว คุณครูสอนภาษาจีน เดินทางมาพร้อมคณะครูร.ร.มะยมสรรเสริญ กล่าวว่า ตนได้ขอเป็นครูอาสาสมัครผ่านโครงการของรัฐบาลซึ่งที่เลือกเมืองไทยเนื่องจากเห็นว่ามีวัฒนธรรมที่ดีงามและมีความน่าสนใจกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งวันนี้ตนได้มีโอกาสไปถวายสักการะพระบรมศพ ตนรู้สึกประทับใจมากเพราะในประเทศจีนมีเพียงผู้นำประเทศ ไม่ได้มีพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด ซึ่งก็ทำให้ตนได้เรียนรู้ว่าคนไทยรักสถาบันกษัตริย์มาก และตนก็เป็นคนหนึ่งในนั้น เนื่องจากประเทศไทยและจีนได้มีความสัมพันธ์กันต่อเนื่องยาวนานถึง 41 ปีและตนได้เห็นความสัมพันธ์อันดีมาตลอดในหลายเรื่อง เช่น ค้าขายกันมาตั้งแต่โบราณ มีการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน และคนไทยส่วนหนึ่งก็มีเชื้อสายจีนด้วย
“คุณครูไทยเคยเล่าให้ฟังว่า พระองค์ทรงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประเทศไทยอยู่เสมอ ซึ่งคิดว่าหลายนวัตกรรม พวกเราทั้งชาวไทยตลอดจนชาวจีนสามารถนำมาใช้ได้ เช่น การทำให้ในน้ำมีปลาในนามีข้าว และแนวคิดในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งประเทศจีนเองมีจำนวนประชากรอย่างมหาศาลซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับไทยแล้ว ประเทศจีนสามารถเรียนรู้นวัตกรรมนี้และนำกลับไปใช้ได้ ซึ่งฉันก็จะเป็นตัวแทนกลับไปเล่าประสบการณ์และวิธีคิดต่างๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดและทรงทำ ทั้งนี้ขอร่วมยินดีกับคนไทยที่ได้มีพระหากษัตริย์พระองค์ใหม่ด้วย” นางสาวจ่าง กล่าว
