สกู๊ปหน้า 1 มติชน : เชียร์ปลดล็อก แพ-เต็นท์ อัพเกรดทำธุรกิจโรงแรม

เชียร์ปลดล็อก แพ-เต็นท์ อัพเกรดทำธุรกิจโรงแรม

จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่…) พ.ศ. … ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอปลดล็อกให้แพ ตู้คอนเทนเนอร์ เต็นท์-กระโจม ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็กให้ประกอบธุรกิจโรงแรมได้

วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ให้ความเห็นว่า ถือเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนได้อีกทางหนึ่ง ให้มีโอกาส มีรายได้ และเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง เพราะถ้าดึงมาเข้าระบบอย่างถูกต้องและภาครัฐให้การรองรับแล้ว ผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็กเหล่านี้ก็ต้องเข้ามาสู่ระบบ เกิดเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง สามารถตรวจสอบได้ และต้องจ่ายภาษี ต้องปรับกฎระเบียบและบริการรองรับให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย สร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเกิดความพึงพอใจ ไม่ต้องถูกทอดทิ้งเพราะไม่มีการดูแลที่เหมาะสมจนเกิดปัญหาการร้องเรียนตามมา

ที่ อ.ปากช่อง และ อ.วังน้ำเขียว เริ่มมีสถานที่พักที่ตัวอาคารมีลักษณะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ เต็นท์ หรือกระโจม เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นเทรนด์ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่นชื่นชอบ เนื่องจากมีรูปลักษณ์สวยงามแปลกตาฉีกรูปแบบห้องพักแบบเก่า ซึ่งที่พักมีลักษณะเป็นเต็นท์ กระโจม พูลวิลล่า โฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

ดังนั้น เป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการที่พักชุมชนจะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แอบเปิดที่พักรับนักท่องเที่ยวแล้วมีปัญหาต่างๆ ตามมา ที่สำคัญก็คือจะเป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชนเหล่านี้มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนธุรกิจ และเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของประเทศอย่างถูกต้อง ซึ่งภาครัฐจะต้องมาดูเรื่องกฎระเบียบ ข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงเรื่องภาษี และมาตรการรองรับให้เหมาะสมด้วย ควรลดหย่อนหลักเกณฑ์และภาษีลง ไม่ต้องเท่ากับโรงแรม เพื่อให้ที่พักชุมชนสามารถเดินหน้าประกอบกิจการต่อไปได้อย่างถูกต้องสามารถตรวจสอบได้เพราะมีกฎหมายรองรับ

ADVERTISMENT

อยากฝากไปถึงภาครัฐได้ช่วยผลักดันเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเร่งพิจารณารายละเอียดข้อกำหนดต่างๆ ให้เหมาะสมกับกิจการขนาดเล็ก เพื่อออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้ รวมถึงตรวจสอบเรื่องการก่อสร้างดำเนินกิจการบนพื้นที่ที่ถูกระเบียบกฎหมาย และอีกหลายๆ เรื่อง เพื่อให้สถานประกอบการที่พักชุมชนมีความเข้มแข็ง เกิดระบบระเบียบที่ดี รองรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หนุนเต็มที่

เอกฉัตร สุนทรหัทยา ประธานชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจอำเภอไทรโยค/กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนไทรโยค รีสอร์ท จำกัด/กรรมการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เสริมว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะในหลายประเทศการพักโรงแรม รีสอร์ต ในลักษณะอาคารหลายๆ รูปแบบเป็นเรื่องปกติ เช่น ในแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย จะมีโรงแรมที่เป็นเรือลอยอยู่ในน้ำ หรือประเทศในยุโรปแถบสแกนดิเนเวีย ที่ไปดูแสงเหนือ หรือในแอฟริกา ที่ไปดูวิถีชีวิตสัตว์ หรือในตะวันออกกลาง ตามทะเลทรายต่างก็มีที่พักลักษณะกระโจม เต็นท์ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานของห้องพักในรูปแบบต่างๆ กันไปที่ทั่วโลกมี

การปลดล็อกนี้จะทำให้ที่พักซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบทำถูกต้องในการประกอบกิจการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม รีสอร์ตได้ แต่ขอให้ทำตามสิ่งที่ภาครัฐกำหนดในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ความแข็งแรงของที่พัก ระบบดับเพลิง ระบบสุขาภิบาล การบำบัดน้ำเสีย การจัดเก็บขยะ มีการตรวจสอบจากภาครัฐได้และให้มีวิศวกรควบคุมควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ จะทำให้นักธุรกิจผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรงแรม รีสอร์ต ในรูปแบบที่พักอาศัยอื่นๆ ต้องการเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญคือรัฐจะได้จัดเก็บภาษี และเข้าควบคุมเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน อีกทั้งจะทำให้มีรูปแบบที่พักใหม่ๆ รองรับและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เข้ามาพักตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ จ.กาญจนบุรี และจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยได้ครอบคลุมทุกมิติทุกพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

การปลดล็อกครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจในเรื่องของการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี ที่มีศักยภาพในเรื่องของแพ เนื่องจากมีแม่น้ำหลายสาย ซึ่งสายหลักได้แก่ แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง และยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เช่น อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง วิถีชีวิตของคนเมืองกาญจน์ในอดีตก็เป็นชาวเรือชาวแพ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกแพพักอาศัย การล่องแพขนส่งสินค้า หรือการค้าขายอยู่บนแพริมแม่น้ำ

ฉะนั้น การนำแพพักมาทำเป็นห้องพักในพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติและถูกต้องตามกฎหมาย นักลงทุนที่เป็นเจ้าของธุรกิจก็สามารถที่จะลงทุนได้อย่างเต็มรูปแบบและยินดีที่จะเข้าสู่ระบบของภาครัฐ

สำหรับผู้ประกอบการแพประการแรกที่ภาครัฐได้มีนโยบายเบื้องต้นออกมาโดยระบุว่าจะต้องอยู่ในเขตพื้นที่ที่สามารถที่จะทำได้ เป็นเขตที่มีเอกสารสิทธิที่ดิน หรือเป็นเขตที่รัฐอนุญาตให้เช่าพื้นที่ หรืออนุญาตให้ประกอบพื้นที่ตรงนั้นเป็นกรณีพิเศษ

ประการที่สอง ตัวแพต้องมีการกำหนดขนาดเบื้องต้นที่จะขออนุญาตได้ที่ชัดเจน อุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างไรบ้าง เช่น ถังดับเพลิง เจ้าหน้าที่ดูแล การผูกแพยึดติดกับตลิ่ง และประการที่สาม การตรวจสอบการก่อสร้าง ต้องเป็นวิศวกรที่มีใบอนุญาต รัฐสามารถที่จะมาทำการตรวจสอบเพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบแพพัก และใช้ในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมได้ หากทำทุกอย่างเป็นระบบเชื่อว่าผู้ประกอบการมีความยินดีที่จะลงทุน และทำให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายทุกข้อเพื่อให้ได้มาซึ่งการอนุญาตของรัฐ

ทั้งนี้ อ.ไทรโยค มีผู้ประกอบการที่มีแพพักไม่ต่ำกว่า 50 ราย แต่ละแห่งจะมีห้องพักเริ่มตั้งแต่ 10 ห้อง ไปจนถึงกว่า 80 ห้อง รวมแล้วมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ห้อง ถือว่าเป็น 1 ในอำเภอที่มีจำนวนแพพักมากเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด ส่วนภาพรวมทั้งจังหวัดคาดว่ามีแพพักรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ห้อง (ไม่รวมแพลาก-แพล่อง) ถือว่ามีแพพักที่มากที่สุดในประเทศไทย

เมื่อนำแพเข้าสู่ระบบได้รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ปีละนับร้อยล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นผลดีต่อภาครัฐทั้งทางภาษีและการควบคุมดูแลจัดการอีกด้วย ขอให้ภาครัฐได้ช่วยสนับสนุนเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าวด้วย ประธานชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจอำเภอไทรโยค เชียร์เต็มที่

เป็นเสียงสะท้อนส่วนหนึ่งกับการปลดล็อก แพ เต็นท์-กระโจม ให้ทำเป็นธุรกิจโรงแรมได้