ชัยภูมิ ทุ่มงบจัดซื้อเครื่องมือผลิตเส้นไหมไฮเทคให้เกษตรกร 10 กลุ่ม นำไปพัฒนาเส้นไหม ในทุกกระบวนการผลิต ให้ได้ปริมาณและคุณภาพ พร้อมรณรงค์ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรไม่เหมาะสม มาปลูกต้นหม่อนป้อนกระบวนการผลิตเส้นไหม
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดชัยภูมิ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรีธีระนันท์ พิจารโชติ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันมอบเครื่องสาวไหมมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด 2 หัวสาว พร้อมเครื่องเหล่งไฟฟ้า แก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเส้นไหม ในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ คอนสาร บ้านแท่น และอำเภอภูเขียว จำนวน 10 กลุ่ม ตามโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไหมสู่สากล ซึ่งปีนี้ได้รับงบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในการจัดซื้อเครื่องมือดังกล่าว เพื่อต่อยอดให้กลุ่มเกษตรกร นำไปพัฒนารังไหม เส้นไหม ผ้าไหม ทุกกระบวนการผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ว่าที่ร้อยตรี ธีระนันท์ พิจารโชติ กล่าวว่า ชัยภูมิมีเกษตรกรประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 7,000 กว่าราย ผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 30-40 ตันต่อปี สร้างรายได้ให้กับจังหวัดนับ 100 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่ผลิตเส้นไหมคุณภาพดี ป้อนวงการผลิตผ้าไหม เนื่องจากไหมที่ผลิตจากชัยภูมิ เป็นไหมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ผู้ผลิตผ้าไหมรายใหญ่ในประเทศและต่างประเทศ หันมาสั่งเส้นไหมจากชัยภูมิไปใช้อย่างต่อเนื่อง จังหวัดชัยภูมิจึงมอบหมายให้ทางศูนย์ฯ เข้ามาดูและและพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจัง นอกจากการสนับสนุนเครื่องมือสาวไหม ช่วยเพิ่มผลผลิตแล้ว ยังผลิตไข่ไหมพันธุ์ดีให้เกษตรกร 15,000 แผ่นต่อปี ใน 1 แผ่นเกษตรกรสามารถนำไปเลี้ยง แล้วทำเป็นเส้นไหมได้ 2-3 กิโลกรัม ถือเป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากการทำเกษตร แต่สามารถสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะใช้พื้นที่ปลูกหม่อนน้อย แต่รายได้งาม
ว่าที่ร้อยตรี ธีระนันท์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจ อยากให้เกษตรกรพิจารณาปรับเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรไม่เหมาะสม เช่นเป็นที่ดอน แล้วหันมาปลูกหม่อน จำหน่ายให้กับกลุ่มเลี้ยงไหม และพ่อค้าที่จะเดินทางไปรับซื้อผลผลิตที่เกิดจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เช่นผลหม่อนสุก ตัวดักแด้จากการสาวไหม และรังไหมเป็นต้น
