เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปและติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้ง 23 อำเภอ รวม 163 ตำบล 1,438 หมู่บ้าน 97 ชุมชน เบื้องต้นทางจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินทั้ง 23 อำเภอ
โดยความเสียหายในภาพรวม มีผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 301,557 คน รวม 108,659 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 คน ความเสียหายเบื้องต้น มีถนนสาธารณะ ชำรุด/ได้รับผลกระทบ จำนวน 678 สาย คอสะพาน 65 แห่ง ฝาย 19 แห่ง ท่อระบายน้ำ 12 แห่ง วัด 2 แห่ง บ้านเรือน 890 หลัง จำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่ประสบภัย 127,414 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวที่ประสบภัย 159,363 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 100,967 ไร่ พื้นที่พืชไร่ที่ประสบภัย 15,889 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 12,151 ไร่ และพืชสวนและอื่น ๆ ที่ประสบภัย 1,101,359 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 309,687 ไร่ ถนนสายหลักในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช รถทุกชนิดผ่านได้ทุกเส้นทาง เฝ้าระวังดินสไลด์ 1 จุด
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สถานการณ์ในภาพรวมของพื้นที่ดีขึ้น แต่น่าเป็นห่วงในส่วนของพื้นที่รับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร และปากพนัง ที่ผู้ประสบภัยต้องทนแบกรับกับสภาพน้ำท่วมขังไปอีกระยะ จำเป็นที่ภาคส่วนเกี่ยวข้องต้องเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาทั้งทางกายภาพและการเยียวยาทางจิตใจ ประกอบกับการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า จะมีฝนระลอกใหม่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้ระดมกำลังกาย กำลังใจเพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมทั้งรับมือกับสถานการณ์ในระดับต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขณะนี้นั้น ได้ระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้าดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศานุวงศ์ มูลนิธิและองค์กรต่างๆ เข้าสนับสนุนช่วยเหลือถุงยังชีพ น้ำ อาหาร ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษาในพื้นที่ประสบภัยหลายแห่งยังคงประกาศปิดการเรียนการสอน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่โรงเรียนส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นจุดอพยพผู้ประสบภัย
