นายกเล็กแก่งเสี้ยน ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ ไฟไหม้บ่อขยะเชิงเขาทองถูกลอบเผา เปิดคลิปเสียงสนทนาหลุดในกรุ๊ปไลน์หมู่บ้าน อ้างเป็นอดีตนายพล ร. และชาวบ้าน ป. วางแผนแฉขบวนการประโยชน์ทับซ้อนบนกองขยะ เกี่ยวกับการจะตั้งโรงไฟฟ้ากำจัดขยะ เตรียมนำส่งตำรวจดำเนินคดีต่อไป
ความคืบหน้ากรณีมีผู้ลักลอบเข้าไปเผาบ่อขยะเชิงเขาทอง หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แก่งเสี้ยน ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากเทศบาลต่างๆ ที่อยู่ใกล้พื้นที่นำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำเพื่อดับไฟ โดยใช้เวลานานร่วม 5 ชั่วโมงจึงควบคุณสถานการณ์ได้
โดยก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ ได้มีคลิปการสนทนาระหว่างชายและหญิงพูดจากันถึงวิธีการวางเพลิงหลุดเข้าไปในไลน์กลุ่มหมู่บ้านที่มีสมาชิกร่วม 400 คน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ไฟไหม้ ‘บ่อขยะ’ นับล้านตันรอกำจัด หลังหมดสัญญาเช่าพื้นที่ทัพบก พบพิรุธเชื่อวางเพลิง
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายก อบต.แก่งเสี้ยน พร้อมด้วยรองนายก อบต. ได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายจักกฤชได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับแปลงที่ดินเชิงเขาทอง ที่กองทัพบกส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ไปตามขั้นตอนของกฎหมายมาแสดงให้สื่อมวลชนได้ดู แต่ไม่สามารถมอบให้ได้ เนื่องจากเป็นเอกสารลับของทางราชการที่ส่งไปตามขั้นตอนในการส่งมอบพื้นที่ของแต่ละหน่วยงาน
ส่วนไฮไลต์ของการแถลงข่าวในครั้งนี้คือการที่ นายจักกฤชนำคลิปการสนทนาที่มีความยาว 9 นาที 35 วินาที มาเปิดให้สื่อมวลชนได้รับฟัง ซึ่งนายจักกฤชเปิดเผยว่า เสียงที่สนทนากันนั้น เป็นทหารยศพลเอก อักษรย่อ ร. ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคนในหมู่บ้าน ชื่อย่อว่า นาง ป. ซึ่งการแถลงข่าวในวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ
นายจักกฤชเผยว่า หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งนายก อบต.แก่งเสี้ยนได้ประมาณ 1 ปี ก็มาเจอปัญหาที่ไม่ชอบมาพากลในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการขยะ
จากนั้นได้มีบุคคลหลายฝ่ายซึ่งเป็นบุคคลที่เราคาดไม่ถึง เพราะมีตำแหน่งเป็นถึงนายพลของกองทัพบก มีตำแหน่ง พลเอก ที่อยู่ในกาญจนบุรี 1 ท่าน อยู่ กทม. 1 ท่าน และมีทหารยศ พลอากาศเอกอีก 1 ท่าน แต่ทั้งหมดได้เกษียณไปแล้ว และยังมีข้าราชการในจังหวัดอีกหลายท่าน แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ
การที่ตนเปิดแถลงข่าวในวันนี้นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ก่อนจะลงรายละเอียดตนขอเปิดคลิปการสนทนาให้สื่อมวลชนได้รับฟังกันก่อน สำหรับคลิปการสนทนา ตนจะใช้เป็นหลักฐานในการไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของคลิปที่สนทนากันในข้อหาวางเพลิง
ส่วนชายต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่พบก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการติดตามตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด สำหรับเหตุการณ์เกิดไฟไหม้ตนฟันธงล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นการวางเพลิง ไม่ใช่เกิดจากภัยธรรมชาติ หรือเกิดจากไฟป่าอย่างแน่นอน
สำหรับบทสนทนาในคลิปที่นายจักกฤชนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน สรุปใจความได้ประมาณว่า กระบวนการที่กองทัพบกจะคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์มีหลายขั้นตอน และต้องใช้เวลาอีกนานนับปี ซึ่งทางธนารักษ์อาจจะให้ อบต.แก่งเสี้ยน ใช้พื้นที่หรือไม่ให้ใช้พื้นที่ก็เป็นได้ และการที่ อบต.แก่งเสี้ยนจะขอใช้พื้นที่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ปี อีกทั้งการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการขอใบ PPA (Power Purchase Agreement) ซึ่งมีขั้นตอนถึง 11 ขั้นตอน ต้องผ่านมหาดไทย 5 ขั้นตอน และผ่าน ป.ป.ช.อีก 6 ขั้นตอน
และว่า ขยะที่เชิงเขาทอง ทำกันเป็นขบวนการโดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนจำนวนมหาศาล มีข้าราชการทุจริตคอร์รัปชั่น และมีนายทุนหลายรายถูกหลอกให้มาลงทุน โดยแต่ละรายจะสูญเงินไปหลายสิบล้านบาท และหากจะตั้งโรงไฟฟ้ากำจัดขยะจะต้องจ่ายใต้โต๊ะในการซื้อขายใบ PPA จำนวนถึง 300 ล้านบาท (เงินสด) และค่าก่อสร้างประมาณ 1,200 ล้านบาท จึงไม่มีความเป็นไปได้ในการที่จะตั้งโรงไฟฟ้าฯ
แต่ที่นายก อบต.แก่งเสี้ยนออกมาให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใช้พื้นที่ ก็เพื่อหาผลประโยชน์กับกลุ่มนายทุน และ หากการตั้งโรงไฟฟ้าสามารถทำได้ง่ายๆ ทางกองทัพบกก็ทำไปแล้ว ไม่ปล่อยให้มาถึงมือกลุ่มคนพวกนี้หรอก
และเสียงผู้ชายในคลิปยังระบุว่า “ถ้าคุณจะให้มันเกิดเรื่อง กลางคืนให้เอาน้ำมันราดและจุดไฟเผากองขยะ คราวนี้ก็จะติดคุกกันเป็นแถว เพราะ 1.ทหารเพิกเฉย 2.เอาขยะมาทิ้งแล้วเกิดไฟไหม้ใครรับผิดชอบ และคราวนี้เรื่องจะแดงออกมาหมด”
