วันที่ 11 ธันวาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายบุญธรรม หุยประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา เป็นตัวแทนรายงานผลการดำเนินการและสภาพปัญหาของสำนักงานเขต กลุ่มกรุงเทพใต้ ประกอบด้วย เขตปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม นานนาวา คลองเตย วัฒนา พระโขนง สวนหลวง และบางนา ในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2559 โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธาน ว่า ทางกลุ่มกรุงเทพใต้ให้ความสำคัญกับเรื่องอาคารสูง และสถานบันเทิงเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บริเวณกลางเมือง จากการสำรวจอาคาร พบว่า มีอาคารสูงทั้งหมด 968 แห่ง และมีการตรวจสอบแล้ว 391 แห่ง ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันระหว่างแต่ละเขตแล้ว โดยเห็นว่าต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนเดือนมีนาคม 2560 แต่ที่ผ่านมาบางเขตประสบปัญหาเรื่องจำนวนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน อาจไม่เพียงพอ จึงขอเสนอต่อที่ประชุม ว่า หากอาคารใดมีการออกใบรับรองการตรวจสอบอาคาร ร.1 โดยสำนักการโยธาแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่ต้องตรวจสอบซ้ำในระยะเวลา 2 ปี
“เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการตรวจสอบสถานบันเทิง ในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากในกลุ่มเขตกรุงเทพใต้นั้น มีจำนวนสถานบันเทิงถึง 225 แห่ง ตรวจสอบไปแล้ว 145 แห่ง ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันระหว่างแต่ละเขตแล้ว โดยเห็นว่าต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนช่วงปีใหม่ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ต้องมีการตรวจสอบระบบและอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย รวมทั้งบันไดหนีไฟ หรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ซึ่งไม่มีความจำเป็น ที่อาจเป็นอุปสรรคกีดขวางทางเดิน เป็นต้น” นายบุญธรรม กล่าว
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองฯผู้ว่า กทม. กล่าวว่า กรณีสถานบันเทิงซานติก้า ถือเป็นบทเรียนของกทม. และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีกฎหมายออกมา เพื่อกำหนดให้ การสร้างอาคารต้องมีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีมาตรฐาน มีจุดที่กักเก็บน้ำดับเพลิง ซึ่งด้วยศักยภาพของกทม.เอง คงสามารถช่วยบรรเทาปัญหาอัคคีภัยที่เกิดบนตึกสูงได้เพียงประมาณ 10 ชั้นเท่านั้น ทางอาคารสูงเหล่านี้จึงต้องมีห้องที่เก็บน้ำไว้เพื่อป้องกันปัญหาอัคคีภัย โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกทม.ต้องไปตรวจ ทั้งโรงอาคารสูง โรงภาพยนต์ สถานบันเทิง ต่างๆ
“ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคณะกรรมการขึ้นมาโดยกำหนดระยะเวลาการตรวจอาคาร สถานบันเทิง โรงภาพยนต์ ให้ชัดเจน หากพบว่าอาคารใดไม่มีมาตรฐาน ต้องรีบแจ้งเจ้าของอาคารเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข ต่อไป” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
