จับบ่อนใหญ่! เปิดแบบโจ๋งครึ่ม ห้องกระจกโรงแรมดัง จนท.ปกครองบุกเอง รวบนักพนัน 40 ราย ตั้งวงเล่นบัคคาร่า และไพ่เสือมังกร
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 เมษายน นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านศรีหมวดเกล้า ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยนายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วย นายสุทธิพันธ์ เครือสุข ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองลำปาง และ นายอมรรัตน์ จารึกสมาน ปลัดอำเภอเมืองลำปาง, จนท.อส.ชุดที่ 1 อ.เมืองลำปาง
นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นห้องกระจกใหญ่ อยู่ชั้น 1 ภายในโรงแรมดังกล่าว ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง เข้ามาตรวจสอบ
จุดที่ตั้งบ่อนเป็นอาคารที่อยู่โซนด้านหน้า ใกล้ถนนทางเข้าหมู่บ้าน โดยด้านหน้าเป็นกระจก ภายในเป็นห้องปรับอากาศเย็นสบาย มีการติดตั้งไฟให้สว่าง มีโทรทัศน์ LED และติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วย ซึ่งภายในห้องมีการตั้งโต๊ะผ้าสักหลาด โต๊ะใหญ่ เพื่อใช้เล่นพนัน ซึ่งมีทั้งพนันบัคคาร่า และไพ่เสือมังกร และตู้เกมยิงปลา โดยมีอุปกรณ์ที่ครบครัน สำหรับครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถบุกจับนักพนันทั้งชาย และหญิง ได้ทั้งหมด 40 ราย พร้อมเงินสดของกลางกว่า 80,000 บาท
ซึ่งขณะเข้าจับกุม นักพนันต่างโกลาหล เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถที่จะวิ่งหลบหนีได้ เพราะมีประตูทางเข้าออกเพียงประตูเดียว ด้านหน้าห้องกระจก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้รีบวางกำลังกระจายรอบอาคารแล้ว จึงสามารถจับกุมได้ทั้งหมด สำหรับแผนปฎิบัติการเข้าจับกุมในช่วงนี้ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ทางฝ่ายปกครองได้รับการร้องเรียนเข้ามา จึงมีการตรวจสอบ พบว่า มีจริง และเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ทางอำเภอเมืองลำปาง จึงวางแผน และเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงการเลือกตั้ง ส.ส.
บ่อนการพนันแห่งนี้ นับเป็นบ่อนใหญ่ เงินสะพัดในแต่ละวันหลายแสน ไปจนถึงหลักล้านบาท โดยเปิดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง หรือเจ้าหน้าที่ เพราะตั้งอยู่อาคารด้านหน้าโรงแรม ใกล้ถนนเข้าออกหมู่บ้าน ที่มีผู้คนผ่านไปมาพลุกพล่าน ซึ่งในแต่ละวัน มักจะมีผู้คนเดินทางเข้ามาเล่น โดยจอดรถไว้ภายในโรงแรม
ซึ่งมีญาติพี่น้องของนักพนันที่มาเล่น และสูญเสียเงินในวงพนันแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนมีหนี้มีสิน มีการร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจับกุม เพราะถือว่าตั้งบ่อนพนันอยู่กลางชุมชนเขตเมือง ใกล้แยกภาคเหนือ และอยู่ห่างที่ตั้ง สภ.เขลางค์นคร เพียง 5 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นบ่อนใหญ่ของคนที่มีอิทธิพล หรือมีสี เพราะมีการจ่ายส่วยรายเดือนไปหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าหน้าที่บางคน และกลุ่มนักข่าว
