เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการประกาศของกรมควบคุมโรค เรื่องการป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งประชากรที่มีอายุระหว่าง 9 เดือนถึง 5 ปี ถือเป็นกลุ่มอายุของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยและอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเอนเทอโร 71 มากที่สุด ทั้งนี้โรคดังกล่าวมักจะแพร่ระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว และจะพบผู้ป่วยเพิ่มในช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
นายแพทย์พีระ กล่าวต่อว่า โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยคือ ไวรัสเอคโค และไวรัสเอนเทอโร 71 ส่วนมากพบป่วยในทารกและเด็กเล็กได้ตลอดปี และป่วยมากขึ้นตั้งแต่ฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว ส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปทางปากโดยตรง จากการติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรือปนเปื้อนจากอุจจาระของผู้ป่วย โดยอาการเจ็บป่วยเริ่มด้วยมีไข้ อ่อนเพลียก่อน 1-2 วัน หลังจากนั้นจะมีอาการเจ็บปากและเบื่ออาหาร เนื่องจากมีแผลอักเสบที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ต่อมาจะมีผื่นแดง ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งมักไม่คันและอาจพบที่ก้น หรือหัวเข่าได้ และจะกลายเป็นตุ่มพองใสรอบๆ แดง และแตกออกเป็นหลุมตื้นๆ ทั้งนี้ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ซึ่งมักป่วยนานประมาณ 7-10 วันและหายได้เอง ส่วนการรักษาจึงให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ร่วมกับการเช็ดตัวลดไข้ ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย รสไม่จัด และพักผ่อนให้เพียงพอ บางรายอาจเป็นโรคมือ เท้า ปาก ชนิดที่รุนแรงจะมีอาการไข้ขึ้นสูง ซึม อาเจียน หอบเหนื่อย ควรต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
นายแพทย์พีระ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันโรคที่สำคัญคือ ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ครู ผู้ดูแลเด็กเล็ก ต้องสอนสุขศึกษาให้เด็ก ล้างมือให้ถูกขั้นตอนด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ ดูแลสิ่งแวดล้อมให้สะอาด กำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลให้เหมาะสม ดูแลรักษาความสะอาดอาคารสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งของเด็กเล่นเป็นประจำ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยากำจัดเชื้อโรค ควรจัดสถานที่สำหรับล้างมือ พร้อมสบู่ให้เพียงพอ และประชาสัมพันธ์ถึงวิธีป้องกันโรคในช่วงนี้ให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน ควรกำหนดให้มีการตรวจคัดกรองสุขภาพเด็กทุกคนก่อนเข้าเรียน หากพบเด็กป่วยควรให้หยุดอยู่กับบ้านเพื่อพักรักษาตัวจนกว่าจะหายหรือประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เด็กคนอื่นๆ และหากพบเด็กป่วยพร้อมกันจำนวนมากกว่า 2 คน ในห้องเดียวกัน อาจพิจารณาให้ปิดสถานศึกษาเพื่อทําความสะอาดจนกว่ามั่นใจว่าจะสถานการณ์เข้าสู่ปกติ
สำหรับในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์สถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2559 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวน 825 ราย ดังนั้นสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์จึงได้กำชับให้บุคลากร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล และอสม.ทั้ง 18 อำเภอเร่งรณรงค์ให้ความรู้และย้ำเตือนให้ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กเล็ก ในศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาล เฝ้าระมัดระวังสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งเสี่ยงที่จะอาจเจ็บป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
