ศาลยุติธรรม ห่วงใยประชาชน เมาไม่ขับ ลดคดี-ป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า สัปดาห์นี้กำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย ซึ่งพี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ร่วมงานบุญสงกรานต์ตามประเพณี ตลอดจนใช้เวลาพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ขอให้วางแผนการเดินทาง ศึกษาเส้นทางเพื่อเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งจะเป็นการลดความความเสี่ยงต่อการสูญเสียใดๆ
โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกๆ ปี หน่วยงานภาครัฐร่วมกันรณรงค์การลดอุบัติเหตุการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน และการกระทำผิดกฎหมายจราจร และเฝ้าติดตามสถิติต่างๆ
ทั้งนี้ในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรมรวบรวมสถิติคดีกระทำผิด พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อนำมาเปรียบเทียบย้อนหลัง 2 ปี ช่วงการรณรงค์ 7 วันอันตราย ระหว่าง พ.ศ.2564-2565 พบว่า ในปี 2564 มีผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ขึ้นสู่การพิจารณาพิพากษาคดี รวมทั้งสิ้น 13,103 คน ข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดอันดับหนึ่งคือ ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 12,213 คน คิดเป็น 93.21% รองลงมาเป็นข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 816 คน คิดเป็น 6.23% ขับรถขณะเสพยาเสพติด จำนวน 40 คน คิดเป็น 0.31% และขับรถโดยประมาท จำนวน 34 คน คิดเป็น 0.26% ตามลำดับ
ในปี 2565 มีผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ขึ้นสู่การพิจารณาพิพากษาคดี รวมทั้งสิ้น 17,909 คน ข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดอันดับหนึ่งคือ ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 15,608 คน คิดเป็น 87.15% รองลงมาเป็นข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 1,274 คน คิดเป็น 7.11% ขับรถขณะเสพยาเสพติด จำนวน 980 คน คิดเป็น 5.47% และขับรถโดยประมาท จำนวน 47 คน คิดเป็น 0.26% ตามลำดับ
หากดูจากสถิติ 2 ปี ที่ผ่านมา จะเห็นว่าผู้กระทำความผิดข้อหาขับรถขณะเมาสุรามีจำนวนเพิ่มขึ้น 3,395 คน คิดเป็น 27.8% สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขับขี่ยังขาดความระมัดระวังอยู่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายทั้งกับตัวเองและผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกัน
ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนขับขี่อย่างปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทางและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดคดีกับตนเองและลดปริมาณคดีเข้าสู่ศาลด้วย