เมื่อวันที่ 10 เมษายน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./หน.ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้กวดขันจับกุมการกระทำความผิดทางออนไลน์ทุกประเภทช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-10 เม.ย.2566 จึงนำกำลังพร้อม พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, และชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.( PCT) ชุด 4 เข้าตรวจค้นเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ PG168pro จำนวน 2 จุด จุดแรกคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง และหมู่บ้านจัดสรรอีกแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังสืบสวนพบว่ามีการให้บริการเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ต่างๆ และการพนันกีฬาอื่นๆ โดยมีรูปแบบการโอนเงินเพื่อเข้าเล่นพนันผ่านระบบบัญชีธนาคารในประเทศและแจ้งถอนเงินผ่านเว็บไซต์โดยตรงและมีแอดมินของเว็บไซต์เพื่อช่วยเหลือดำเนินการกับลูกค้าของเว็บไซต์
จุดแรกคอนโดย่านสะพานพระนั่งเกล้า ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พบผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ 8 เครื่อง ซิมการ์ดผีสำหรับทำเว็บพนัน 300 ใบ เงินหมุนเวียนกว่า 161 ล้านบาท จากนั้นตรวจค้นบ้านเช่าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรร ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบนายกิตติพนธ์ (สงวนนามสกุล) พร้อมโทรศัพท์ 8 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 9 บัญชี และซิมการ์ดโทรศัพท์ 500 ซิม แจ้งข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง
พล.ต.ต.ทินกรเปิดเผยว่า จากการสืบสวนกลุ่มดังกล่าวมีนายทุนเป็นคนต่างชาติ ปกติเปิดทำเว็บพนันออนไลน์อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม จ.สระแก้ว แต่ช่วงสงกรานต์นำมาทำการตลาดอยู่ฝั่งไทย โดยกลุ่มคนร้ายเช่าบ้านพักย่านบางบัวทองไว้เป็นที่พักอาศัย และเช่าคอนโดไว้เป็นจุดทำการตลาดเพื่ออำพรางพฤติกรรมของกลุ่มพร้อมซื้อซิมโทรศัพท์ซึ่งจดะเบียนในนามบุคคลอื่นๆ ไว้มากกว่า 500 อัน เพื่อใช้ในการทำการตลาดตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนกว่าร้อยล้านบาท นอกจากความผิดเกี่ยวกับการชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์แล้วจะขยายผลถึงกลุ่มนายทุนเพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินต่อไป
พล.ต.ต.ทินกรกล่าวอีกว่า ในส่วนของซิมผีจะสืบสวนขยายผลว่าใช้เพื่อกระทำความผิดอื่นๆ อันเป็นการฉ้อโกงและเข้าลักษณะการกระทำอันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือไม่ ซึ่งผู้รับจ้างเปิดอาจจะต้องรับผิดในความผิดฐาน “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือยืมใช้เลขหมายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของตนโดยการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดฯ” อันเป็นความผิดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ต่อไป ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของซิมการ์ดโทรศัพท์ที่เป็นของกลางนั้น โดยเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
