จุดความร้อนไทย พุ่ง 2,030 จุด เชียงใหม่มากสุด ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเกือบ 40 จังหวัด

จุดความร้อนไทย พุ่ง 2,030 จุด เชียงใหม่มากสุด ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเกือบ 40 จังหวัด

GISTDA หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 12 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 2,030 จุด ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์อยู่ที่ 10,731 จุด, ลาว 3,098 จุด, เวียดนาม 503 จุด, กัมพูชา 123 จุด และมาเลเซีย 63 จุด

ข้อมูลจากดาวเทียมระบุว่า จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากที่สุด 1,050 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 646 จุด, พื้นที่เกษตร 167 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 91 จุด, พื้นที่เขต สปก. 65 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงใหม่ 399 จุด, เชียงราย 285 จุด, น่าน 177 จุด

ขณะที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ยังคงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่เกือบ 40 จังหวัด กระจายกันไปตามภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์ดังกล่าวประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่ เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่ทุกเขตของกรุงเทพมหานคร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง-ดี

Advertisement

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่า และจุดความร้อนคือ PM2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ

ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้คือ การสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำ และทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่สามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

Advertisement

ทั้งนี้ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือ ติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอพพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image