จากกรณีที่เครือข่ายกุมารแพทย์ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ… หรือ พ.ร.บ.โค้ดมิลค์ (Code milk) โดยมีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น อาทิ การคุมโฆษณาและการตลาดของอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กถึงอายุเด็ก 3 ปี เสนอให้คุมเพียง 1 ปีเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ห้ามกินหรือห้ามขายนมผงแต่อย่างใด แต่เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการที่จะควบคุมการโฆษณาอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กที่เกินจริงรวมถึงการตลาดที่เป็นการลด แลก แจก แถม การที่ต้องกำหนดให้อาหารทารกและเด็กเล็กครอบคลุมถึงอายุเด็ก 3 ปี เนื่องจากประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ออกตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการควบคุมโฆษณานมสูตร 1 (สำหรับทารก 0-12 เดือน) และสูตร 2 (6 เดือน-3 ปี) ก็ควบคุมครอบคลุมหมดถึงอาหารสำหรับเด็ก 3 ปีด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การออกกฎหมายใหม่เป็น พ.ร.บ.จึงไม่ควรกำหนดให้ครอบคลุมน้อยกว่าประกาศ อย.
“ที่สำคัญ คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ก็แนะนำให้ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็กถึงอายุเด็ก 3 ปี อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันจะมีประกาศ อย.ควบคุมโฆษณานมสูตร 1 และสูตร 2 อยู่แล้ว แต่ต้องออกกฎหมายใหม่เป็น พ.ร.บ. เนื่องจากพบว่าปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตและนำเข้านมผงยังมีการโฆษณาอยู่ โดยเพิ่มสูตรเป็นนมสูตร 3 สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไปและทุกคนในครอบครัว แต่นมสูตร 3 จะมีสัญลักษณ์สินค้าเหมือนหรือคล้ายกับนมสูตร 1 และสูตร 2 จึงเป็นการโฆษณาข้ามสินค้า ทำให้ผู้บริโภคซื้อได้” นพ.ธงชัยกล่าว และว่า ส่วนที่เข้าใจว่า พ.ร.บ.นี้จะครอบคลุมถึงการควบคุมนมกล่อง นมโรงเรียน นมเปรี้ยว หรืออาหารอื่นๆ ด้วย เป็นการตีความผิด เพราะร่าง พ.ร.บ.นี้มีความชัดเจนว่าจะไม่รวมถึงอาหารหรือนมอื่นๆ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์นมกับ อย.
วันเดียวกัน ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย โดย ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า กรณีราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯและแพทยสภา ขอยืนยันว่านมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกและเด็กเล็ก เช่นเดียวกับที่รณรงค์มากว่า 30 ปี ยกเว้นกรณีที่แม่หรือเด็กเล็กมีปัญหาสุขภาพ การใช้สารอาหารเสริมจึงมีความจำเป็น
