ร้อง ‘ปิยะสกล’ คืนสิทธิสุขภาพ 2 กลุ่ม ‘นักเรียนชายแดน -อากง อาม่า’ ในไทยกว่าแสนคน

หลังจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) คืนสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิรวม 457,409 คน และมีการเพิ่มเติมอีก 2 แสนคนเมื่อปี 2558 แต่ปรากฏว่ายังมีอีกประมาณ 100,000 คน ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มคนจีนโพ้นทะเล หรืออากง อาม่า ที่อยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 3 หมื่นคน เดิมเคยได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่เมื่อตรวจสอบไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชนจึงถูกถอดสิทธิบัตรทองเสีย ทำให้ปัจจุบันไม่มีสิทธิการรักษาใดๆในประเทศไทย และอีกกลุ่ม เป็นเด็กไร้สถานะกลุ่มนักเรียนที่ได้รับสิทธิศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเรียกว่าเด็กนักเรียนกลุ่ม G อีกกว่า 6-7 หมื่นคน แม้ได้รับสิทธิการศึกษา แต่ไม่ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลนั้น

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นายวิวัฒน์ ตามี่ เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีกองทุนให้สิทธิ(คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ซึ่งมีการตั้งงบประมาณเฉพาะเพื่อดูแลคนเหล่านี้ โดยที่ผ่านมาเครือข่ายฯ ร่วมกับสธ.ได้ขับเคลื่อน จนคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติกลุ่มคนดังกล่าวเข้าสู่กองทุน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 สมัย นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน เป็นรัฐมนตรีว่าการ สธ. ครั้งนั้นมีเพิ่มตัวเลขบุคคลไร้สถานะอีก 2 แสนคน ซึ่ง ครม. มีมติให้งบฯดูแล เรียกว่ายุคนั้นทำงานรวดเร็วมาก มีการเสนอและผลักดันเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ขณะนั้นก็มีปัญหาตรงตัวเลขเด็กนักเรียนกลุ่ม G และคนจีนโพ้นทะเล ซึ่งครม.ให้ไปพิจารณาตัวเลขใหม่ ต่อมามีการเสนออีกครั้งวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นสมัย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการสธ.คนปัจจุบัน แต่ทางครม.ก็มองว่า ตัวเลขยังไม่ชัด ขอทำตัวเลขใหม่อีกรอบ โดยเฉพาะตัวเลขนักเรียนกลุ่ม G ยังไม่ชัดเจน ให้ไปประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทางเครือข่ายฯ มองว่า ตั้งแต่วันนั้นจนขณะนี้ เพราะเหตุใดเรื่องยังไม่คืบหน้า ทั้งๆที่ยุคนี้ควรทำงานได้เร็วกว่ายุคการเมือง

“ทราบว่าทางสำนักเลขาธิการครม.ส่งหนังสือมายังกระทรวงฯ และส่งถึงนพ.ปิยะสกล น่าจะประมาณเดือนกรกฎาคม จนบัดนี้ก็ยังเงียบ ไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆที่ตัวเลข จากการสอบถามทางกระทรวงมหาดไทย กลุ่มตัวเลขไม่แตกต่าง อย่างกลุ่มคนดั้งเดิมหรือคนจีนโพ้นทะเลมีประมาณ30,000 คน กลุ่มนี้จากการหารือเห็นด้วยว่าต้องให้สิทธิสุขภาพ เพียงแต่กระทรวงฯ แค่ยืนยันตัวเลขเข้าไปเท่านั้น ขณะที่ที่กลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มG ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีตัวเลขยืนยันตัวตนประมาณ 69,000 คน ซึ่งหากทวงถาม คาดว่าไม่น่าใช้เวลานาน ” นายวิวัฒน์ กล่าว และว่า เดิมทีตนพร้อมตัวแทนเครือข่ายจำนวนหนึ่งจะขอเข้าหารือกับพญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัดสธ. ในฐานะผู้ดูแลประเด็นดังกล่าว แต่ดูเหมือนคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ จะมีการประชุมหารือ คาดว่าจะเดินทางมายังกระทรวงฯ เพื่อขอเข้าพบกับ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการสธ. และนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดสธ. เพื่อขอความเห็นใจในการขับเคลื่อนเรื่องนี้

นพ.อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 ในฐานะผู้ประสานข้อมูลบุคคลไร้สถานะและสิทธิ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยัง 2 หน่วยงาน แบ่งเป็น 1.กลุ่มคนจีนโพ้นทะเล ซึ่งอยู่ในประเทศไทยมานาน โดยได้ประสานขอข้อมูลทางกระทรวงมหาดไทยเพื่อยืนยันตัวเลขให้ชัดเจน และ2.นักเรียนกลุ่ม G ก็อยู่ระหว่างประสานข้อมูลขอไปทางกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อยืนยันตัวเลขเช่นกัน ซึ่งทั้งสองเรื่องได้ประสานไปประมาณ 1 เดือน แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ซึ่งมีการติดตามอยู่ตลอด ไม่ได้นิ่งเฉย หากได้ข้อมูลก็จะรวบรวมและเสนอต่อครม.พิจารณาตามกระบวนการต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image