ชาวไร่ชาวนาสุพรรณบุรี เหมารถตู้มาสักการะพระบรมศพ เทิดทูน-รักความดีของในหลวง ร.9

นางสอนและเพื่อนชาวสุพรรณ

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทว่า ยังคงมีพสกนิกรจากทั่วสารทิศเดินทางมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

นางสอน โสมพันธุ์ เกษตรกรจาก จ.สุพรรณบุรี อายุ 69 ปี ชักชวนกลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันประมาณ 10 คน เหมารถตู้รับ-ส่งนักเรียน เดินทางมาสักการะพระบรมศพ หลังจากใช้เวลาเตรียมตัวกันนานถึงหนึ่งเดือน เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหลังจากได้เข้าสักการะพระบรมศพสมความตั้งใจว่า จ้างรถตู้ที่รู้จักกันออกจากบ้านมาตั้งแต่สี่ทุ่มถึงสนามหลวงราวตีสอง โดยเตรียมความพร้อมศึกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พวกเราเป็นชาวไร่ชาวนา ไม่มีเสื้อผ้าสุภาพเหมาะสมกับงานพระราชพิธีเช่นนี้ จึงหาชุดและรองเท้าที่สุภาพ เพื่อให้สมพระเกียรติกับในหลวงรัชกาลที่ 9

“พวกเราเป็นชาวไร่ชาวนา ปลูกข้าวปลูกอ้อยเป็นอาชีพหลัก ไม่เคยมีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์เลยสักครั้ง เห็นแต่ในโทรทัศน์ แต่ก็รักและเทิดทูนพระองค์มาก รักในความดีของพระองค์ ซึ่งมีเยอะมากจนหาที่เปรียบไม่ได้ ทุกวันนี้เรามีที่ทำกิน มีน้ำไว้ทำการเกษตรก็เพราะเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงช่วยพัฒนาจนพวกเราอยู่ดีกินดี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งใกล้ตัวที่พวกเราสามารถนำมาปฏิบัติได้จริง” นางสอนกล่าว

สุวิมน
สุวิมล ชินชำนาญ-สุธาสินี วงษ์นา

นางสุวิมล ชินชำนาญ อายุ 36 ปี อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัวเปิดร้านมินิมาร์ท ภูมิลำเนาอยู่ จ.กระบี่ เดินทางมาโดยเครื่องบิน พร้อมเพื่อน นางสาวสุธาสินี วงษ์นา อายุ 38 ปี เผยว่า เปิดร้านค้าขายของทุกวันแต่หยุดประจำวันอาทิตย์ จึงมีโอกาสมาวันนี้โดยไม่หวั่นว่าจะมีประชาชนมาเยอะและต้องต่อแถวรอเป็นเวลานาน จึงจองตั๋วเครื่องบินมาถึงเวลาสองทุ่มของเมื่อวาน ก่อนเดินทางมาถึงสนามหลวงตอนเที่ยงคืน ความตั้งใจแรกอยากมาเดินเล่น เพื่อซึมซับบรรยากาศรอบท้องสนามหลวง แต่เริ่มมีประชาชนมาต่อแถวกันแล้ว จึงมาเข้าแถวทันที ทำให้ได้เข้าไปสักการะพระบรมศพตั้งแต่ช่วงเช้า

Advertisement

“พอได้เข้าไปสักการะพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกตื้นตันใจ ได้กราบพระองค์แล้ว จากที่เหนื่อยๆ ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง สมกับความตั้งใจที่ได้มา ครั้งนี้เป็นครั้งแรก หากมีโอกาสอยากมาสักการะพระบรมศพเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนมามาก เกิดมาก็มีในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ในใจแล้ว ตอนเสด็จสวรรคตรู้สึกใจหายมากๆ น้ำตาไหลไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปร่วมสองเดือนแล้วยังเศร้าใจไม่หาย แต่จะเปลี่ยนความเศร้าเหล่านั้นมาปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม โดยน้อมนำปรัชญาด้านเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักดำเนินชีวิต” นางสุวิมลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image