ชัชชาติลงตรวจทำความสะอาดอุโมงค์ยักษ์ ลึกเทียบตึก 10 ชั้น ประเมินมีดินเลนขยะกว่า 500 ตัน
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กตรวจเยี่ยมการทำความสะอาดอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. และคณะ ร่วมด้วย
นายชัชชาติรับฟังการรายงานการดำเนินการจากเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำว่า ในแต่ละปีจะมีการปิดระบบอุโมงค์ระบายน้ำเพื่อบำรุงรักษา ประกอบด้วย ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องจักรเครื่องกลต่างๆ รวมทั้งมีการล้างทำความสะอาดอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งตอนนี้ดำเนินการทำความสะอาดไปได้แล้วกว่า 80% และจะเปิดใช้งานในช่วงปลายเดือน พ.ค.66 นี้ โดยมีบริษัทผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการล้างปล่องตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นมา ปริมาณขยะที่จัดเก็บได้มีประมาณ 350 ตัน ประเมินไว้มีปริมาณ 500 ตัน โดยจะทำความปีละครั้งในช่วง ทั้งนี้หากไม่มีการทำความสะอาด จะส่งผลให้รองรับปริมาณน้ำได้น้อย
จากนั้นนายชัชชาติ พร้อมคณะ ได้สวมชุดและหมวกเซฟตี้ ก่อนลงตรวจในอุโมงค์ด้านล่างซึ่งมีความลึกประมาณ 30 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 10 ชั้น
นายชัชชาติกล่าวว่า ความสำคัญของการขุดลอกคูคลอง การลอกท่อระบายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำจำนวนมาก ให้ลำเลียงน้ำเข้ามาในชาร์ป หรือปล่องรับน้ำ
“จะเห็นได้ว่าอุโมงค์มีประโยชน์เฉพาะที่มีชาร์ป ถ้าไม่มีชาร์ปอุโมงค์ก็รับน้ำไม่ได้ แม้ว่าจะอยู่ใกล้อุโมงค์ยักษ์แค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถนำน้ำมาที่ชาร์ปได้น้ำก็ยังไม่ลด เป็นสาเหตุที่ว่าเส้นเลือดฝอยจึงสำคัญ”
ด้านนายอรรถเศรษฐ์กล่าวว่า ปัจจุบันมีอุโมงค์ยักษ์ระบายที่เปิดใช้งานแล้วจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อุโมงค์คลองเปรมประชากร อุโมงค์พระราม 9 อุโมงค์มักกะสัน และอุโมงค์บางซื่อ ระยะทางรวม 19.5 กม. ใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
