คาใจแพทยสภา-หมอเด็ก ค้านพ.ร.บ.โค้ดมิลค์ แฝงผลประโยชน์หรือไม่

นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และอดีตประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภา ร่วมกับประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กพ.ศ. … หรือ พ.ร.บ. โค้ดมิลค์ (Code milk) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่า ทราบว่าขณะนี้ธุรกิจนมผงวิ่งเต้นเพื่อยับยั้งร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเต็มที่ และล่าสุดแพทยสภาร่วมกับหมอเด็กบางคน มีการกล่าวหาว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้สุดโต่ง จึงถือเป็นการบิดเบือนข้อมูลสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. และทำให้หมอท่านอื่นๆ หรือพ่อแม่เกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากสิ่งที่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้พยายามทำคือ ปกป้องคุ้มครองสิทธิและสุขภาพของเด็กไทย ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ

“ธุรกิจนม ต้องไม่ทำการตลาดโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เรียกง่ายๆว่าห้ามลดแลกแจกแถม โดยละเมิดกฎเกณฑ์สากลขององค์การอนามัยโลก แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่าธุรกิจเหล่านี้ไม่เคารพกฎกติกา พอบริษัทหนึ่งออกนอกกติกา บริษัทอื่นเห็นก็ทำตาม ต่างคนต่างละเมิด เน้นทำยอดขายโดยไม่สนใจสุขภาพของเด็ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรค์ต่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แปลกใจที่เขาออกมาคัดค้านกฎหมายนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีผลประโยชน์บางอย่างแอบแฝง และองค์กรที่ออกมาร่วมคัดค้าน เคยรับสปอนเซอร์จากบริษัทนมในลักษณะนี้หรือไม่ เช่น การจัดประชุม การเดินทางไปต่างประเทศฯลฯ ผมผิดหวังกับท่าทีของแพทยสภาและหมอเด็กกลุ่มนี้ที่บิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง แทนที่จะทำหน้าที่ตักเตือนปกป้องสิทธิเด็ก ”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว

ด้านนายเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก(มพด.) กล่าวว่า หากดูจากเนื้อหาร่างพ.ร.บ.โค้ดมิลค์ ไม่ได้ห้ามขาย ห้ามแนะนำ ห้ามรับบริจาค ห้ามทำวิจัย แพทย์สามารถแนะนำวิธีการใช้นมผงและวิธีการทำอาหารเสริมตามวัยให้แก่พ่อแม่ได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ห้ามคือ ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น รับสปอนเซอร์ จัดประชุมวิชาการ พา ไปดูงานต่างประเทศ เอื้อประโยชน์ด้านต่างๆ เมื่อไหร่ที่มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน จะเกิดปัญหาขึ้นทันที บุคลาการทางการแพทย์จะทำหน้าที่เชียร์ โอ้อวดสรรพคุณให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมผงยี่ห้อนี้ สูตรนี้เท่านั้น โดยที่ไม่แนะนำการให้นมแม่อย่างที่ควรจะเป็น

“คนที่ออกมาต่อต้านร่างพ.ร.บ.นี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไร ทำไมไม่คำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นตัวตั้ง แต่กลับดึงการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องแทน อย่างไรก็ตามขอสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นี้เพราะจะทำให้แม่ใส่ใจลูกมากขึ้น ปกป้องเด็กจากการทำการตลาดของธุรกิจนมผง ปกป้องทารกให้ได้รับอาหารที่ดีที่สุด ในทางกลับกันเมื่อไหร่ที่มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน จรรยาบรรณจะหายไป ส่งผลกระทบกับคุณค่าและพัฒนาการสมวัยของเด็ก ไร้ข้อมูลที่ถูกต้อง ผลเสียตกอยู่ที่เด็กโดยตรง และขอเรียกร้องพ่อแม่ ทั่วประเทศออกมาส่งเสียงส่งสัญญาณต่อ สนช.ให้ยืนข้างความถูกต้องและปกป้องลูกหลาน มากกว่าหลงกลเกมของนายทุนและนอมินีที่หวังเพียงผลประโยชน์ส่วนตน”นายเชษฐา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image