ทวิดาแถลงขออภัยพยาบาล กทม. ทำงานเกินเวลากว่ากำหนด เร่งบรรจุพยาบาลใหม่ทัน ก.ค.นี้ พร้อมปรับปรุงระบบเตือนทำงานเกินเวลา
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวชี้แจงกรณี เฟซบุ๊กเพจ Nurses Connect โพสต์ข้อความระบุว่าได้รับข้อมูลจากหลายโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ว่าขณะนี้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรอย่างหนัก เนื่องจากการสูญเสียบุคลากรจากภาระงานที่มากเกินไป จนถึงขั้นต้องบีบให้พยาบาลทำงานควบเวร เช้า บ่าย ดึก ติดต่อกัน 24 ชั่วโมง
น.ส.ทวิดากล่าวว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. สั่งมีการสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการให้พยาบาลทำงานเกินเวลาจริง แต่สำนักการแพทย์มีมาตรฐานเข้มงวด โดยจำกัดการทำงานสูงสุด 2 กะ ได้ติดต่อกันไม่เกิน 16 ชม. เบื้องต้นให้มีการแก้ไข และให้หยุดไม่ให้ทำงานเกินเวลา ทั้งนี้ ผู้ว่าฯชัชชาติห่วงการทำงานเกินเวลา เพราะส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจ กระทบต่อการรักษาให้ประชาชน
น.ส.ทวิดากล่าวว่า ส่วนข้อเท็จจริงแบ่งออกเป็น 2 กรณี ซึ่งคาดว่าเหตุเกิดอยู่ในโรงพยาบาลโซนกรุงเทพตะวันออก เพราะมีจำนวนประชาชนเข้ารับบริการจำนวนมาก จึงมีการเทียบชื่อพยาบาลตอนเข้ากะทำงาน พบว่ามีการเข้าทำงานเกินเวลาจริง เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากบุคลากรพยาบาลมีอัตราตึงตัว แต่ได้มีการจ้างพยาบาลจากภายนอกมาช่วยเสริมจำนวนมาก ส่วนอีกกรณีคือ พยาบาลหลายคนติดโรคโควิด-19 พร้อมกัน ยอมรับว่าระบบแจ้งเตือนเวลาการทำงานยังไม่สามารถใช้ในทุกโรงพยาบาล มีเพียงเฉพาะในวชิระพยาบาลและโรงพยาบาลกลางเท่านั้น ส่วนการแก้ปัญหา จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแจ้งเตือนการทำงานเกินเวลา
“ยอมรับว่าเรื่องนี้กระทบต่อประชาชน เราต้องบริหารจัดการจำนวนพยาบาลให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก จึงต้องคุยกับบุคลากรถึงขั้นตอนการทำงาน การอยู่เวร สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยบังคับ และการบังคับให้อยู่ต่อ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น” น.ส.ทวิดากล่าว
น.ส.ทวิดากล่าวว่า จะต้องมีการเร่งให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กก.) ให้มีการรีบบรรจุพยาบาลใหม่ในต้นเดือน ก.ค.นี้ จากที่กำหนดภายในเดือน ส.ค. จำนวน 138 ราย จากนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และการรับข้าราชการเข้าสำนักการแพทย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสัมภาษณ์ ที่ยังไม่ทราบตัวเลขการบรรจุแน่ชัด พร้อมจัดหาบุคลากรภายนอกเพิ่มเติมเข้ามาในช่วงห้วงเวลา ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลสามารถทำได้เลย
“ต้องขออภัยน้องพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ที่เครียด คิดเองว่าคงไม่ใช่ครั้งเดียวรึเปล่า เขาคงเหนื่อยมาก ทำให้ต้องรายงานเราแบบนี้” น.ส.ทวิดากล่าว
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ เปิดเผยว่า สำนักการแพทย์ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการดูแลประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐานของสภาการพยาบาล โดยแต่ละโรงพยาบาลมีการประกันคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาล จากเหตุการณ์นี้ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารของแต่ละโรงพยาบาลเรื่องการดูแลทุกข์สุขของพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมพัฒนาระบบตรวจสอบติดตามอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
นางสายฝน ภู่พิทยา หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลกลาง กล่าวว่า การบริหารงานของพยาบาลทั้ง 11 โรงพยาบาล สังกัดกรุงเทพมหานครใกล้เคียงกัน หากทำงานเกิน 16 ชั่วโมงจะเห็นการขาดอัตรากำลังในบางโรงพยาบาล จึงต้องมีการเคลียร์อัตรากำลังมาช่วย ยืนยันว่าฝ่ายพยาบาลทราบกฎระเบียบ ทั้งนี้ได้รับคำสั่งจากผู้บริหารให้กลับไปทบทวนแก้ไขเรื่องดังกล่าว โดยเน้นแก้ปัญหาที่ระบบ มากกว่าการหาตัวผู้ร้องเรียน
