‘ม่อนแจ่ม’ เสนอ ‘พิธา’ ขอรังวัดพิสูจน์สิทธิ หลังถูกดำเนินคดีบุกรุก 113 รายแล้ว

‘ม่อนแจ่ม’ เสนอ ‘พิธา’ ขอรังวัดพิสูจน์สิทธิ หลังถูกดำเนินคดีบุกรุก 113 รายแล้ว

“ม่อนแจ่ม” เสนอ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ขอรังวัดพิสูจน์สิทธิ บังคับใช้กฎหมายเท่าเทียม หลังถูกดำเนินคดีบุกรุก 113 รายแล้ว เล็งเชิญลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง บอกขอสิทธิครอบครอง ไม่อยากได้โฉนดชุมชน เชื่อแก้ปํญหาได้ดีกว่า สมัยรัฐบาล”ลุงตู่” สชพ.ขอดูแลคุ้มครองนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พบปะกับกลุ่มชาติพันธุ์ ที่สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT) อ.สันทราย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า ได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึงนายพิธา เพื่อแก้ปัญหาการครอบครองสิทธิที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกินบนม่อนแจ่ม เนื่องจากชาวม้ง ได้พัฒนาอาชีพเป็นท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้าง และบริการที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม รวมถึงร้านอาหาร กาแฟ ของฝาก ของที่ะลึก เพื่อสร้างงาน และรายได้สู่ชุมชน แทนทำเกษตรเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ ได้เรียกร้องให้มีการรัดวัง และพิสูจน์สิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าว ก่อนประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม พร้อมให้บังคับใช้กฏหมายอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ เนื่องจากชาวม่อนแจ่ม ถูกกรมป่าไม้ ดำเนินคดีฐานบุกรุก แผ้วถางป่าในที่ดินทำกินของตนเอง ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ในชั้นศาล 23 คดี อยุในชั้นพนักงานสอบสวน และอัยการอีก 90 ทคดี รวมเป็น 113 คดีแล้ว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน อยากให้รัฐบาลใหม่ช่วยเหลือแก้ปัญหา และเยียวยาดังกล่าว

Advertisement

“หากนายพิธา จัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว และเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 อาจเชิญนายพิธา หรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ลงพื้นที่พบปะชาวม่อนแจ่ม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อเป็นกรณีศึกษา หรือโมเดลการพัฒนาบนพื้นที่สูงแบบมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ไม่ใช่การจับกุมดำเนินคดีเพียงอย่างเดียว ซึ่งชาวม่อนแจ่ม เรียกร้องสิทธิครอบครองที่ดินทำกินเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องออกโฉนดแปลงรวม หรือโฉนดชุมชนอย่างใด เชื่อว่าปัญหาดังกล่าว ได้รับการแก้ไขในสมัยนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี” นายเอกรินทร์ กล่าว

ขณะที่ นายศักดา แสนมี่ เลขาธิการสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (สชพ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมกลุ่มชาติพันธุ์ ต้องการสะท้อนปัญหาให้มีการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การบริหารจัดการป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติ ที่ทับซ้อนที่อยู่อาศัย และที่ทำกินชาวบ้าน รวมทั้งเรื่องสัญชาติ การศึกษา การรักษาพยาบาล การเข้าถึงรัฐสวัสดิการ ความเท่าเทียม และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒธรรม เพื่อยกระดับการพัฒนาชีวิตดีขึ้น

“นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลให้ความเป็นธรรม และคุ้มครองนักเคลื่อนไหวชนเผ่า หรือชาติพันธุ์ ที่ยังต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในเรื่องสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียม ทั้งมีชีวิตอยู่ เสียชีวิต และสูญหาย อยากให้ช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวนักเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วย” นายศักดา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image