จับยาบ้าบิ๊กล็อต 1.9 ล.เม็ด-ไอซ์ มูลค่า 500 ล. รวบ 2 หนุ่มม้งขนจากเชียงรายไปอยุธยา

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันแถลงจับกุมตัวนายสมชาติ อัครรุ่งโรจน์ อายุ 29 ปี ชาว จ.ตาก และนายรุ่งโรจน์ แซ่เฮ่อ อายุ 31 ปี ชาวจ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้า 1,900,000 เม็ด ยาไอซ์10 ถุง กิโลกรัม รถยนต์กระบะอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน 3กอ-1102 กรุงเทพมหานคร1 คัน รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 1 ฒน-9432 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณ ตลาดกลางเกษตร อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ต.ทนัย กล่าวว่า ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนชนเผ่าม้ง อ.พบพระ จ.ตาก จะลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดจากเขตพื้นที่ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามการสั่งซื้อจากผู้ว่าจ้างโดยใช้รถยนต์กระบะ 2 คัน ในการขนลำเลียงยาเสพติด โดยใช้เส้นทางจากจ.เชียงรายผ่าน อ.เทิง อ.ป่าแดด-พะเยา-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-อุทัยธานี-ชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง ก่อนเข้าพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา จึงสั่งการให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้กระจายกำลังตามจุดต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะใช้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงการจับกุมจนกระทั่งเวลา 16.30 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มเป้าหมายบริเวณริมถนนคู่ขนานสายเอเชีย ตรงข้ามลานจอดรถตลาดกลางเพื่อการเกษตร ต.หันตรา อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นรถกระบะทั้ง 2 คัน แต่รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 1 ฒน-9432 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายนิคม แซ่ห้อ เป็นผู้ขับขี่ ได้ขับรถหลบหนีไปตามถนนสายเอเชียขาเข้ามุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ก่อนกลับรถใช้เส้นทางสายเอเชียขาขึ้น มุ่งหน้าจ.พระนครศรีอยุธยา และหลุดจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าตรวจค้นรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน 3กอ-1102 กรุงเทพมหานคร พบของกลางยาเสพติดจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระสอบ โดยมีนายสมชาติ อัครรุ่งโรจน์ เป็นผู้ขับขี่รถ และนายรุ่งโรจน์ แซ่เฮ่อ เป็นผู้รับงานขนลำเลียงยาเสพติด จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งทีมนี้เป็นทีมมืออาชีพเคยมีการขนลำเลียงยาเสพติดเข้าไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมา ผ่านทางตำรวจภูธรภาค 4 แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสกัดกั้นพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะทางเส้นทางจ.เลย ทำให้กลุ่มเครือข่ายนี้ไม่กล้าที่จะลำเลียงยาเสพติดผ่าน แต่ได้เปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงมาทางพื้นที่ภาคกลางแทน และเป็นกลุ่มของมูเซอร์ที่เคยลำเลียงยาเสพติดเข้ามา ครั้งละ 2-3 ล้านเม็ดมาก่อน ยาล็อตนี้ถ้าไม่ถูกสกัดจับกุมเสียก่อน ก็จะหลุดเข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในรอบ 3-4 ปีนี้ จะสังเกตได้ว่าเมื่อมีการจับกุมยาบ้า ก็มักจะพบไอซ์ควบคู่ด้วยเกือบทุกครั้ง ยาเสพติดล็อตนี้หากหลุดรอดการจับกุมได้ จะกระจายมาให้พื้นที่ชุมชนในเขตกรุงเทพถือว่าอันตรายมาก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

ปส.3
ขณะที่พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สังเกตจากตราประทับ 999 ที่ห่อหุ่มยาบ้าแล้วแสดงว่ายาล็อตนี้ใหม่ หากเจ้าหน้าที่ไม่จับกุมในครั้งนี้ ยาล็อตดังกล่าวจะถูกส่งกระจายไปในชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเป็นอันตรายและยากที่จะติดตามยาเสพติดล็อตนี้ออกมาได้ นอกจากนี้ยังพบว่าถุงที่ใช้ในการบรรจุยาบ้าที่มีลักษณะเป็นถุงสีดำรูปแอปเปิ้ล โดยก่อนนี้ได้ส่งยาบ้าเข้าห้องแล็ปเพื่อตรวจวิเคราะห์สาร ทำให้ทราบว่ามีการเพิ่มตัวยาชนิดเมทแอมเฟตามีนเข้าไป และมีการเพิ่มกลิ่น มีราคาสูงกว่าเดิมเม็ดละ 10-20 บาท ซึ่งจะทำให้ผู้เสพติดยาเสพติดได้ง่ายขึ้น

ด้านพล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยด้วยว่า ฝากไปถึงโรงงานในเขตปริมณฑลที่เป็นโรงงานรับผลิตถุงสีดำรูปแอปเปิ้ล ให้ระมัดระวัง เพราะเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดอยู่ ครั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ทำมา 2 ครั้ง โดยครั้งนี้ได้รับค่าจ้าง 2 ล้านบาท แต่ละครั้งหากมีรถยนต์ส่วนตัวจะได้รับเงิน 200,000 บาท หากไม่มีรถยนต์ก็จะได้รับเงิน 300,000 บาท ซึ่งชาวม้งพบพระ เจ้าหน้าที่จับ ถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำกว่า กว่า 400 คน แล้ว

ADVERTISMENT

ปส.2