อาจารย์ มทร.ตะวันออก นำครอบครัวสักการะพระบรมศพ เผยอยากให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสพระบารมี “ในหลวงร.9”

นางศรัณยา รักเสรี อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยสามีนายวิบูลย์ รักเสรี และนายศรันย์-นายศรุต รักเสรี บุตรชาย กล่าวว่าออกเดินทางจากบ้านพักตอน 01.00 น. มาถึงบริเวณท้องสนามหลวงเวลา 02.00 น. และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพในเวลา 09.00 น. รู้สึกเป็นบุญที่ได้สักการะพระบรมศพ พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของประชาชน รักพระองค์ท่านมาก เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์มาตั้งแต่เล็กๆ วันนี้อยากให้ลูกซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ได้มาเห็นพระบารมีของท่านเป็นครั้งสุดท้าย

“ได้มาเห็นความรักของประชาชนที่มีต่อพระองค์ท่านแล้วก็ตื้นตันใจ ทรงเป็นเหมือนพ่อของเราจริงๆ ทุกปีในวันที่ 4 ธันวาคม ลูกๆ คนไทยทุกคนต้องมานั่งรอหน้าจอทีวีเพื่อฟังพระบรมราโชวาทของพระองค์ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านมีแนวคำสอนพระราชทานมากมาย ตอนเด็กๆ อาจจะไม่ค่อยเข้าใจพอโตขึ้นมาถึงเข้าใจ มีโอกาสก็จะนำมาสอนลูกๆ ต่อ ลูกผู้ชายอาจจะสอนยาก ก็พยายามชี้ให้เห็นภาพ โดยเฉพาะคำสอนเรื่องความอดทน ทำอะไรทุกเรื่องไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ขอให้มีความอดทน รู้จักรอ และพยายามให้ถึงที่สุด อย่างวันนี้เขาก็ได้เรียนรู้การรอคอยอย่างอดทน ซึ่งพระองค์จะอยู่ในใจเราตลอดไป” นางศรัณยา กล่าว

ด้านลูกชายคนเล็ก นายศรุต รักเสรี อายุ 14 ปี เผยว่า เกิดไม่ทันช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ทรงงานทั่วประเทศ แต่รู้จักและซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณผ่านปฏิทิน รูปภาพ และสื่อต่างๆ ขณะเดียวกันทางโรงเรียนก็ปลูกฝังเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่างๆ เช่น โครงการแก้มลิง แกล้งดิน กังหันชัยพัฒนา รู้สึกว่าพระองค์เป็นผู้ที่มีความสามารถมากมายหลายด้านจริงๆ ทำทุกอย่างด้วยความอดทน ตัวเองจึงนำความอดทนพยายามนี้มาใช้ในการเรียนและชีวิตประจำวัน

S__19726341
ศรัณยา รักเสรี และครอบครัว

ด้านครอบครัวกล่อมบาง จากจ.ปทุมธานี ก็ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระโกศเช่นกัน นางลำดวน กล่อมบาง วัย 51 ปี กล่าวว่า วันนี้ได้นำลูกๆหลานๆ ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลา 02.00 น. ถึงสนามหลวงเวลา 03.00 น. โดยพวกเขาร้องขอให้พามาสักการะเพราะเด็กๆ เห็นแต่ในจอโทรทัศน์ ตนจึงเห็นว่าบ้านเราเองไม่ได้อยู่ไกลกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่จึงพากันนั่งรถมาในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่เด็กๆ หยุดเรียนด้วย

Advertisement

“อยากให้พวกเขาได้มาเห็นบรรยากาศและพระราชพิธีต่างๆ โดยอยากให้ซึมซับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะได้บอกต่อสิ่งดีๆ ต่อลูกของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระเจ้าแผ่นดินอย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 และความรัก ความเมตตาของคนไทยที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะต่อแถวด้วย” นางลำดวน กล่าว

ครอบครัวกล่อมบาง
ครอบครัวกล่อมบาง

ส่วนนายบุญเลิศ อ่ำทับ อายุ 69 ปี ชาวจังหวัดราชบุรีเดินทางพร้อมครอบครัวตั้งแต่เที่ยงคืนวานนี้และมาเข้าแถวช่วงเวลา 02.00 น. เผยว่า ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ตอนทำงานอยู่กรมชลประทานที่ จ.กาญจนบุรี เคยเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จฯไปวางศิลาฤกษ์เขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลม อีกทั้งเมื่อตอนเป็นทหารสังกัดกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จ.เพชรบุรี ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ขณะที่พระองค์เสด็จฯ ยังวังไกลกังวล ได้ชื่นชมพระบารมี ถือเป็นบุญของตน ครั้งนี้จึงตั้งใจมาด้วยความรัก คิดถึงและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

นายบุญเลิศ กล่าวต่อว่า ตอนที่มาถึงบริเวณสนามหลวงเห็นประชาชนมารอเข้าแถวกันเป็นจำนวนมากรู้สึกดีใจและเป็นปลื้มที่เห็นประชาชนคนไทยรักพระองค์มากมายขนาดนี้ แม้ตอนนี้พระองค์ไม่อยู่กับพวกเราแล้ว เราก็ได้น้อมนำคำสอนมาใช้พร้อมบอกต่อลูกหลานทั้งเรื่องของความประหยัด อดทน และความเพียร รวมถึงการไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข โดยลูกสาวประกอบอาชีพครูก็ได้นำสิ่งเหล่านี้ไปสั่งสอนลูกศิษย์ต่อผ่านการเล่าพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ให้เด็กรุ่นใหม่ได้ฟังและนำไปปฏิบัติ

Advertisement
นายบุญเลิศ อ่ำทับ (ขวาสุด) พร้อมครอบครัว
นายบุญเลิศ อ่ำทับ (ขวาสุด) พร้อมครอบครัว
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image