ยืนยัน ‘สะพานไทย-เบลเยี่ยม’ มั่นคงแข็งแรง เปิดใช้ปกติ โฆษก รบ.ขอหยุดแชร์ข่าวเท็จ

แฟ้มภาพ

โฆษกรัฐบาลแจง สำนักการโยธา กทม.ยืนยันสะพานไทย-เบลเยี่ยม มั่นคงแข็งแรงดี เปิดให้บริการปกติ เตือนอย่าแชร์ข่าวปลอม ผู้แชร์ข้อมูลเท็จมีความผิดตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวทางโซเชียลมีเดีย “ตอนนี้อย่าผ่านไป สะพานไทย-เบลเยี่ยม นะ สะพานแอ่นลง กลัวอันตราย จส.100 แจ้งมา” ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้เข้าไปตรวจสอบสะพานไทย-เบลเยี่ยมแล้ว ยืนยันว่าไม่พบความผิดปกติและสะพานมีความ มั่นคงแข็งแรงดี สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ

นายอนุชาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนต่อปัญหาข้อมูลอันเป็นเท็จบนโลกอินเตอร์เน็ตและช่องทางออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น เว็บไซต์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ไลน์ ฯลฯ โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบ หากพบข่าวสารที่ไม่ถูกต้องให้รีบแก้ไขปัญหาและชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนและสังคมรับทราบโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสารที่เป็นเท็จขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลเสียหายต่อประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

“ขอย้ำให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีและการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะในโลกสังคมออนไลน์ต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างรู้เท่าทัน และมีการคิดวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้ ก่อนจะเชื่อและแชร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่นรวมถึงสังคมในวงกว้าง

Advertisement

“การแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากการแชร์ข้อมูลนั้นไปกระทบกับบุคคลอื่น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายอนุชากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image