พสกนิกรทั่วประเทศถือโอกาสวันปีใหม่ ถวายพระพร ‘ในหลวงร.10’ เพื่อความเป็นสิริมงคล

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เมื่อเวลา 06.58 น. วันที่ 1 มกราคม ในวาระอันเป็นศุภมงคลขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2560 สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เวลา 06.58-17.00 น. การนี้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้จัดเตรียมสถานที่ โต๊ะลงนามถวายพระพร และสมุดหลวงลงพระนาม ลงนามถวายพระพร เป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งหมด 4 จุด ได้แก่

1.ห้องมุขกระสันตะวันออกชั้นล่าง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ สมาชิกราชสกุล และองคมนตรี ลงนามถวายพระพร

2.ศาลาว่าการพระราชวัง สำหรับนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง ตลอดจนคณะทูตานุทูต

3.ศาลาสหทัยสมาคม สำหรับข้าราชการ

Advertisement

4.จุดลงนามถวายพระพรของประชาชน คือ เต็นท์สีขาวบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาลูกขุน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงนามถวายพระพรวันแรกของศักราชใหม่ว่า ช่วงเช้ามีประชาชนทยอยเดินทางมาแต่เช้าตรู่ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบาย ก่อนเปิดโต๊ะลงนามถวายพระพร ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากยังแต่งกายไว้ทุกข์ในชุดสีดำและแต่งกายสุภาพในชุดสีขาว เพราะบางส่วนได้ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามคืนโดยอาศัยพื้นที่ท้องสนามหลวงพักค้างแรม กระทั่งช่วงเช้าจึงร่วมลงนามถวายพระพรและถือโอกาสไปกราบสักการะขอพรจากพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ขออำนาจและบารมีช่วยให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสิริมงคล โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรีและใช้ประตูมณีนพรัตน์และประตูสวัสดิโสภาเป็นทางออก ส่วนนักท่องเที่ยวเข้าทางประตูสวัสดิโสภาและออกทางประตูมณีนพรัตน์ โดยในวันนี้ ทางสำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ฟรี

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Advertisement

โดยในส่วนของคณะบุคคลสำคัญและบุคคลมีชื่อเสียงของประเทศ มาลงนามถวายพระพรต่อเนื่องตลอดทั้งวัน อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร, คณะทูตานุทูตจากประเทศสิงค์โปร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สวีเดน เนปาล ฯลฯ สำหรับปีนี้ทางสำนักพระราชวังงดแจกปฏิทินหลวง ซึ่งเป็นของที่ระลึกดังเช่นทุกปี

ส่วนประชาชนที่มาร่วมถวายพระพร อย่างนางรุจิรา เทศชาติ อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ วัย 60 ปี กล่าวว่า วันนี้ตนได้ตั้งใจเดินทางมาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยออกเดินทางจากบ้านที่ จ.นนทบุรี ตั้งแต่เวลา 06.30 น. มาถึงท้องสนามหลวงเวลา 08.00 น. ซึ่งเมื่อคืนก็ได้ร่วมสวดมนต์ข้ามปีอยู่ที่บ้าน เพราะเกรงว่าจะไม่มีแรงมาลงนามถวายพระพรในช่วงเช้า นอกจากนี้ ตนก็ได้นำ ส.ค.ส.ปีใหม่ที่ได้จัดทำขึ้นเองติดตัวมาด้วย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่ปีนี้

“ได้เก็บซองจดหมายที่ครั้งนั้นทางไปรษณีย์ไทยได้จัดทำเพื่อวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 50 พรรษา ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้นไว้ จากนั้นก็ได้นำมาปะติดปะต่อกับการ์ดสีชมพูที่ตนมี ซึ่งเปรียบเสมือนความรักที่มีต่อพระองค์ สำหรับความรู้สึกที่เข้ามาถวายพระพรในครั้งนี้ รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่ร่วมเป็นหนึ่งในการถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการเริ่มต้นศักราชใหม่” นางรุจิรากล่าว

รุจิรา
รุจิรา

พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้านในพระบรมราชานุเคราะห์ นำคณะลูกเสือชาวบ้านมาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เพื่อสร้างความปรองดอง กิจการลูกเสือชาวบ้านยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เน้นวิถีชีวิตในการดำรงตนเป็นพลเมืองดี จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2514 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงพระยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชพิธีพระราชทานธง ซึ่งเป็นพิธีสำคัญให้กับเหล่าลูกเสือชาวบ้านมาตลอด เป็นจำนวน 155 ครั้ง รวมเป็นหมื่นกว่ารุ่น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และทำให้พวกเรารู้สึกสำนึกมาโดยตลอด โดยพวกเราจะจงรักภักดีต่อสถาบันชาติตลอดไป วันนี้จึงได้ตั้งใจมาลงนามถวายพระพร

พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา (คนกลางแถวบน)
พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา (คนกลางแถวบน)

น.ส.ประภัสสร พานิช อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ได้ชักชวนลูกสาวสองคนมาต่อแถวถวายสักการะพระบรมศพในคืนวันที่ 31 ธันวาคม แล้วถือโอกาสอยู่ต่อเพื่อร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่ท้องสนามหลวง เสร็จแล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านย่านสุขุมวิท 107 รุ่งเช้าจึงมาอีกครั้งเพื่อร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเวลา 08.00 น. พร้อมกับนำพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมาด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคล

“มาด้วยใจจงรักภักดี เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต จริงๆ อยากให้ลูกสาวลงนามถวายพระพรด้วย เพราะเป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตที่ได้เกิดมาสองรัชกาล อยากถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนไทยนานๆ เพราะคนไทยรักพระองค์ท่าน และอยากอวยพรคนไทยทุกคนให้มีความสุข อย่าได้วิตกกังวล ขอให้รักสามัคคีกัน ไม่แบ่งแยก เหมือนช่วงนี้ที่รักกันตลอดไป” น.ส.ประภัสสรกล่าว

น.ส.ประภัสสร พานิช
น.ส.ประภัสสร พานิช

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image