ปลัดสธ. เยี่ยม 3 รพ.ชายแดนจังหวัดตาก ปลื้ม ใช้โซลาร์เซลล์ลดค่าไฟได้เดือนละ 1 แสนบาท!

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่โรงพยาบาล (รพ.) แม่สอด, รพ.อุ้มผาง และ รพ.พบพระ จ.ตาก ว่า จังหวัดตากมีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีช่องทางการเข้า-ออก ทั้งช่องทางทางการและช่องทางธรรมชาติมีสถานการณ์ผู้หนีภัยจากการสู้รบ และมีการเคลื่อนย้ายของคนเป็นจำนวนมาก รพ.ในพื้นที่ติดชายแดน 5 แห่ง ได้แก่ รพ.แม่สอด รพ.แม่ระมาด รพ.ท่าสองยาง รพ.พบพระ และ รพ.อุ้มผาง จึงต้องดูแลทั้งประชากรไทยในพื้นที่และประชากรต่างชาติ เช่น บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนและสิทธิ คนไทยรอพิสูจน์สัญชาติ แรงงานที่มีประกันสุขภาพ และนักเรียนต่างด้าวที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน รวมกว่า 7 แสนคน

นพ.โอภาส กล่าวว่า พื้นที่แนวชายแดนถือเป็นพื้นที่ที่มีความพิเศษ การดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขจึงแตกต่างกับพื้นที่ทั่วไป ซึ่งพบว่า รพ.ทั้ง 5 แห่งในชายแดนจังหวัดตาก ได้พัฒนาการให้บริการตามบริบทพื้นที่ อาทิ การออกให้บริการเชิงรุกในพื้นที่สูง พื้นที่ทุรกันดาร การเฝ้าระวังควบคุมโรคสำคัญที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มผู้หนีภัยจากการสู้รบ รวมทั้งมีการจัดตั้ง “สุขศาลาข้ามแดน” ในพื้นที่รอยต่อที่มีการส่งต่อผู้ป่วยข้ามแดนมารักษาที่ฝั่งไทย เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมีการพัฒนางานตามนโยบาย ทั้งการจัดหาเครื่องมือแพทย์เสริมศักยภาพการให้บริการ ระบบบริการผู้ป่วยนอกแบบ Smart OPD การรักษาผ่านแอพพลิเคชั่นโครงการ “1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟอกไต” จึงไม่มีผู้ป่วยที่ต้องฟอกไตตกค้าง รวมทั้งติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการอนุรักษ์พลังงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เช่นที่ รพ.แม่สอด ติดตั้งขนาด 300 กิโลวัตต์ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ยเดือนละ 107,436 บาท เป็นต้นทั้งนี้ ปลัดสธ. กล่าวว่า สำหรับปัญหาสาธารณสุขสำคัญที่พบในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง โรคไข้รากสาดใหญ่ โรคไข้กาฬหลังแอ่น โรคไข้เลือดออก อหิวาตกโรค และโรคไข้มาลาเรีย โดยข้อมูลล่าสุด ปีงบประมาณ 2566 (9 เดือน) โรงพยาบาล 5 แห่ง ชายแดนจังหวัดตาก ให้บริการผู้ป่วยนอกแล้วจำนวน 850,059 ราย และผู้ป่วยในจำนวน 189,770 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image