เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 3 มกราคม 2560 ร.ต.อ.ธนะ เนตรใจบุญ รอง สว.สส.สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ด.ต.ไพบูลย์ ทวิชศรี หัวหน้าสายตรวจ ต.หาดยาย อ.หลังสวน พร้อมด้วย นายเชิด อายุ 49 ปี และ นายชุ่ม อายุ 70 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ชาว ต.หาดยาย อาชีพทำสวนยางพารา เดินทางไปยังสถานีรถไฟหลังสวน เพื่อรอรับ ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี ลูกสาวและหลานปู่ของนายเชิดและนายชุ่ม ซึ่งถูกเพื่อนชายที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ล่อลวงจาก อ.หลังสวน ไป จ.นครปฐม แต่ถูกตำรวจรถไฟควบคุมตัวได้
เมื่อขบวนรถด่วนสายกรุงเทพฯ–สุไหงโก-ลก เข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟหลังสวน ด.ต.วิฑูรย์ คำพัฒน์ ผบ.หมู่ สร.ฟ.หัวหิน กก.3 บก.รฟ.ได้นำตัว นายตรีเพชร เล็บครุฑ หรือ “จั๊ก” อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 หมู่ 9 ต.นิลเพชร อ.บางเลน จ.นครปฐม และ ด.ญ.เอ ในสภาพอิดโรย ลงมาจากโบกี้ตำรวจรถไฟ ซึ่งนายตรีเพชรถูกสวมกุญแจมือ พยายามปิดบังหน้า ก่อนถูกนำตัวไปยัง สภ.หลังสวน เพื่อสอบปากคำ
ร.ต.อ.เติม สอนสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน สอบปากคำได้ความว่า นายตรีเพชรรู้จักกับ ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี ทางเฟซบุ๊กเมื่อหลายเดือนก่อน จนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2559 นายตรีเพชรได้นั่งรถไฟมาลงที่สถานีหลังสวน เพื่อพบกับ ด.ญ.เอ ต่อมาในวันที่ 1 มกราคา 2560 เวลา 17.00 น.นายตรีเพชรจึงได้ชักชวน ด.ญ.เอขึ้นรถไฟสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ปลายทางที่ จ.นครปฐม
นายเชิดเปิดเผยว่า บุตรสาวหายตัวไปจากบ้านใน ต.หาดยาย พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีแดง ทะเบียน 369 กระบี่ จึงแจ้ง ด.ต.ไพบูลย์ ทวิชศรี หัวหน้าตำรวจสายตรวจ ต.หาดยาย ออกตามหา ก่อนประสานกับ ร.ต.อ.ธนะ เนตรใจบุญ รอง สว.สส.จนพบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ที่สถานีรถไฟหลังสวน เมื่อขอดูกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟก็เห็นนายตรีเพชรและบุตรสาว ขี่รถซ้อนท้ายกันมา ก่อนพากันขึ้นรถไฟ จึงประสานไปยังตำรวจรถไฟ จนสามารถจับกุมนายตรีเพชรได้ที่ จ.นครปฐม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนทั้งสองกลับมายัง อ.หลังสวน เพื่อดำเนินคดีนายตรีเพชรในข้อหาพรากผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 15 ปี และจะส่งตัว ด.ญ.เอไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการละเมิดทางเพศ ซึ่งนายตรีเพชรให้การว่ามีอาชีพเป็นช่างรับต่อเติมบ้านที่ จ.นครปฐม และตั้งใจนำ ด.ญ.เอไปเที่ยวในช่วงปีใหม่
