กอนช. ชี้ทิศทางพายุ 3 ลูก ไม่กระทบไทย มีเพียงร่องมรสุมพาดผ่าน ทำฝนตกบางพื้นที่
วันที่ 31 สิงหาคม นายธรรมพงศ์ เนาวบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และ สสน. พบว่า ขณะนี้มีพายุที่อยู่ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก จำนวน 3 ลูก ได้แก่ พายุไต้ฝุ่นเซาลา (SAOLA) พายุโซนร้อน ไห่ขุย (HAIKUI) และพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวใหม่ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์แนวทางการเคลื่อนตัวของพายุ ปรากฏว่า พายุทั้ง 3 ลูก จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะมีเพียงร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนเท่านั้น ที่จะส่งผลให้มีฝนตกในบางพื้นที่
นายธรรมพงศ์ กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์ดังกล่าว กอนช. ได้ออกประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์ตามประกาศอย่างเคร่งครัด
นายธรรมพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กอนช. ได้ติดตามปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบมีปริมาณน้ำไหลเข้ารวม 772 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยน้ำไหลเข้าสะสมในอ่างฯ ใหญ่ สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ 199 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 129 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิรินธร 85 ล้าน ลบ.ม. ตามลำดับ พร้อมกันนี้ ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ใหญ่ สะสมในช่วงสัปดาห์ถัดไป (30 ส.ค. – 5 ก.ย. 66) คาดว่าจะมีน้ำไหลเข้าสะสมเพิ่มเติมอีก 859 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ในระดับหนึ่ง
นายธรรมพงศ์ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยถึง 7 แห่ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพิ่มขึ้น แต่จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศ พบว่ายังมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่พอสมควร โดยปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 43,863 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 53% ของความจุทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นปริมาณน้ำใช้การ 19,760 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ ปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศ ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันก็ยังคงต่ำกว่าค่าปกติอยู่ถึง 21% จึงยังคงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการใช้น้ำอย่างประหยัด
นายธรรมพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากสถานการณ์ของแหล่งน้ำทั่วประเทศที่มีปริมาณน้ำไม่มากนัก ประกอบกับสภาวะเอลนีโญที่ส่งผลให้มีปริมาณฝนน้อย และคาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า สทนช. จึงได้มีการออกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ทั้ง มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 เพิ่มเติม จำนวน 3 มาตรการ เพื่อขับเคลื่อนในช่วงฤดูฝนนี้ พร้อมกันนี้จะมีการจัดประชุมสัมมนาถอดบทเรียนการติดตามประเมินผลการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2565/66 และการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์เอลนีโญ เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งในฤดูแล้งหน้า ก่อนจะมีการออกมาตรการฤดูแล้ง ปี 2566/67 เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มท. 4 ยัน น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ เท่าปี 54 ยกเว้นมี พายุหรือฝนตกต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
- ศศิน เตือนพายุสวิงเร็วแรง คาดมาจริง รุ่งเช้า 19 ก.ย. แนะ 7 จังหวัดเตรียมแผนรับมือ
- อุตุฯ เตือนไต้ฝุ่นยางิ ฉ.12 ขึ้นฝั่งเวียดนามพรุ่งนี้ อัพเดตเส้นทางกระทบไทย 7-8 ก.ย.
- พายุถล่ม ‘หาดใหญ่’ ต้นไม้-เสาไฟฟ้าหัก ปักหัวรถกระบะขับผ่าน รอดตายหวุดหวิด