เศรษฐาทำทันที ลุยฟรีวีซ่า1ต.ค. บูมเที่ยว-ปลุกศก.
กระแสความตื่นตัวในการตอบรับมาตรการฟรีวีซ่า หรือวีซ่าฟรี ถือว่าแรงมาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าจะมีการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย ผ่านมาตรการนี้ คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม โดยยกเว้นการขอวีซ่าเข้ามาท่องเที่ยวในไทยไปเลย ไม่ใช่แค่ยกเว้นค่าธรรมเนียมเหมือนที่เคยทำในอดีต
เรียกได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของบรรดาภาคธุรกิจและท่องเที่ยว รวมถึงภาคส่วนต่างๆ ที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ หากสามารถผลักดันออกมาได้ เพราะนอกจากท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์โดยตรงแล้ว ธุรกิจอื่น อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีกค้าส่งต่างๆ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าลงถึงตลาดนัดก็จะได้อานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น
ยิ่งเป็นประเทศฐานลูกค้าหลักอย่างจีนและอินเดีย ยิ่งสร้างความหวังได้มากขึ้น เพราะทั้ง 2 ประเทศนี้ รู้จักสินค้าไทยและมีความชื่นชอบในสินค้าไทยมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึงเป็นตลาดที่กระเป๋าหนัก สามารถใช้จ่ายได้สูงเพื่อให้ได้รับการบริการหรือสินค้าตามความพอใจ
ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) มองว่า สัญญาณการท่องเที่ยวไทยในช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม รวมถึงเดือนมกราคม-มีนาคม ที่วนมาทุกปีนั้น ในปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 ยังไม่เห็นสัญญาณบวกในการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เมื่อรัฐบาลนำโดยนายเศรษฐา ได้ประกาศที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ รวมถึงได้ส่งสัญญาณที่จะใช้มาตรการฟรีวีซ่าเป็นยาแรงกระตุ้นตลาดจีนและอินเดีย ที่เป็นฐานลูกค้าหลักของไทย สะท้อนผ่านปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเฉียด 11 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมเกือบ 40 ล้านคน
เมื่อมีการประกาศแนวโน้มจะใช้ฟรีวีซ่าออกมานั้น ถือเป็นปัจจัยส่งเสริมและสนับสนุนต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ทั้งธุรกิจนำเที่ยวของคนไทย และบริษัททัวร์นำเที่ยวในประเทศปลายทางด้วย เนื่องจากตอนนี้เห็นบริษัทนำเที่ยวในจีนเริ่มพากันตื่นตัวเป็นอย่างมาก มีการแชร์ ข่าวเต็มโซเชียลมีเดียในจีน ถือเป็นสัญญาณที่ดีในภาคของการท่องเที่ยวไทย จึงอยากให้มีออกมาทันเดือนตุลาคมตั้งแต่ต้นเดือน โดยเป็นการประกาศใช้ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนตัดสินใจเข้ามาเที่ยวไทยได้ทัน และควรใช้มาตรการอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป
เพื่อให้เห็นผลแบบในการกระตุ้นตลาดจีนและอินเดียแบบชัดเจนด้วยส่วนตลาดอินเดียต้องบอกว่าเข้ามาเที่ยวไทยเป็นปกติอยู่แล้ว แต่การมีฟรีวีซ่าจะทำให้คนอินเดียมีแรงดึงดูดเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น เพราะตอนนี้รัฐบาลอินเดียมีการเก็บภาษีพลเมืองที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวอินเดียชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็ยังมีออกมาในกลุ่มที่มีศักยภาพใช้จ่ายสูงเป็นหลัก
นายกสมาคมแอตต้าเสนอด้วยว่า
สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการใช้ฟรีวีซ่าคือ การฟื้นเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นบินตรงหรือเข้ามาต่อเครื่องในประเทศ โดยต้องทำให้จำนวนเที่ยวบินมีเพียงพอก่อน เพราะหากไม่มีเที่ยวบินให้จองเข้ามา ก็เท่ากับปิดประตูการท่องเที่ยวแล้วการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงนี้เพื่อให้ทันในช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วน เพราะแม้เศรษฐกิจในจีนจะยังไม่สดใสมากนัก รัฐบาลจีนพยายามส่งเสริมให้คนเที่ยวในประเทศ แต่ก็มีคนจีนประมาณ 10% ที่เดินทางเที่ยวต่างประเทศอยู่ดี และในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มมีศักยภาพในการใช้จ่าย หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ไทยอยากได้เป็นฐานลูกค้าหลักด้วย จึงต้องพยายามอำนวยความสะดวกให้เข้ามาเที่ยวไทย ทั้งขั้นตอนเข้าประเทศ วีซ่า และเที่ยวบิน
มาตรการด้านวีซ่าอย่างการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าไทย อยากให้เร่งรัดมีออกมา เพื่อให้ทันไฮซีซั่นนี้ โดยเฉพาะวันชาติจีนต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้มีแรงส่งผลในเชิงบวกต่อท่องเที่ยวจนถึงภาพรวมเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี จนถึงต้นปี 2567 ต่อไป เพราะการลงพื้นที่ของนายเศรษฐา และกระแสข่าวเชิงบวกในแง่มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีออกมา ถือว่าสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไทยได้สูงมาก จากนี้ก็จะเป็นการดันให้เกิดแรงกระเพื่อมเชิงบวกต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งเอกชนนำเที่ยวและตัวนักท่องเที่ยวเองด้วย ศิษฎิวัชรกล่าว
ขณะที่ อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการแอตต้า เห็นว่าเอกชนอยากเห็นการประกาศใช้มาตรการฟรีวีซ่าออกมาทันทีในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ในเดือนกันยายนนี้ รวมถึงการหารือร่วมกับสายการบิน เพื่อเพิ่มเที่ยวบินโดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยได้มากขึ้น 10% ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2566 (พฤศจิกายน-ธันวาคม) หรือภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ทั้งปีเกินเป้าหมายที่วางไว้ 5 ล้านคน เพราะเมื่อประกาศใช้ออกมาแล้ว บริษัทนำเที่ยวต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการเตรียมความพร้อม จึงน่าจะเห็นผลใน 2 เดือนสุดท้ายของปี 2566 (พฤศจิกายน-ธันวาคม) เท่ากับว่าประกาศได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้เร็วมากเท่านั้น
ในส่วนความพร้อมของการทำตลาดนั้น ต้องบอกว่าหน่วยงานด้านทำตลาดท่องเที่ยวต่างชาติของไทย อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยเฉพาะเมื่อมีผู้นำทัพหญิงคนใหม่อย่าง น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ที่ได้ออกมาระบุว่าหากรัฐบาลสามารถอัดยาแรงสุดผ่านการออกเป็นฟรีวีซ่า ประเมินว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอีก 700,000 คนต่อเดือน
หากทัน 3 เดือนสุดท้ายก็จะมีเข้ามา 2.1 ล้านคน บวกกับที่มีเข้ามาเที่ยวไทยสะสมอยู่ 2,182,038 ล้านคน เท่ากับว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยแน่นอนอยู่แล้วที่ 4.2 ล้านคน รวมถึงยังมีลุ้นช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีด้วย ว่าจะเข้ามาได้มากเกินกว่าที่คาดไว้หรือไม่ ซึ่งจะดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนถึง 5 ล้านคน ตามเป้าหมายเดิมได้ อดิษฐ์กล่าวทิ้งท้าย
มาตรการฟรีวีซ่าที่จะดีเดย์ 1 ตุลาคม เป็นอีกความหวังหนึ่งที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทย
