ผู้สอบผ่านนายสิบ บช.น.เปิดใจ ขอความเป็นธรรม ให้ผู้สอบได้โดยสุจริต

ขอบคุณแฟ้มภาพจาก maytharat kongsri

ความคืบหน้ากรณีโกงการสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจสังกัดบช.น. วันนี้ (7 ม.ค.) จนเกิดกระแสข่าวการโละการสอบดังกล่าวทั้งหมด ผู้สื่อข่าวมติชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากหนึ่งในผู้ที่สอบได้ระบุว่า อยากให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่สอบได้โดยสุจริต

“ผมนายชยพล ขำทองทับ สอบได้ตัวจริง บชน. ครับ อยากให้ บชน. ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่สอบผ่านด้วยความสุจริต เพราะผมและพวกเขามุ่งมานะมีความพยายาม เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่ต้องกลับมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเรา แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆที่ทุจริตซึ่งก็ควรดำเนินการลงโทษกับพวกทุจริตไม่ใช่เหมาเข่งร่วมกับผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ซึ่งพวกเราก็ได้ทำการสอบมาหมดทุกขั้นตอนแล้วซึ่งเสียค่าใช้จ่ายมาก 3 ถึง 5 หมื่นเลยช ทำไมถึงพึ่งมาประกาศว่ามีคนทุจริตถ้าประกาศตั้งแต่ประกาศผลสอบข้อเขียนพวกเราก็คงพอรับได้แต่นี้ผ่านทุกขั้นตอนแล้ว จะเข้าเรียนแล้ว แต่กลับเจอเรื่องแบบนี้ทั้งที่เราไม่ได้ทำผิด ผมและเพื่อนๆที่สอบติด บชน. ทุกคนขอความเป็นธรรมด้วยครับ ขอบคุณมากครับสำหรับผู้ที่ให้ความช่วยเหลือและเห็นใจพวกเรา”

ทั้งนี้ กว่าจะผ่านมาถึงปัจจุบัน ต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากละครั้งนี้ การสอบได้ดำเนินการไปถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ต้องเสียต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่าย อาทิ 1.ค่าสมัครสอบ 2.ค่าพิมพ์มือตรวจประวัติ 3.ค่าตรวจโรคของโรงพยาบาลตำรวจ 4.ค่าที่พักตอนไปสอบที่ศาลายา 3วัน 5.ค่าที่พักใน กรุงเทพ ประมาน 7วัน 6.ค่าเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปส่งเอกสารให้โรงพัก 7.บางคนได้ลาออกจากงาน ได้ลาออกจาก”ข้าราชการ” ได้ลาออกจากสถานศึกษา 8.บางคนสอบได้เป็นปีสุดท้าย ปีหน้าอายุจะเกิน 9.บางคนเสียเงินทองไปทำเลสิกมาเพื่อให้ผ่านการตรวจสายตา เสียเงินจำนวนมาก 10.บางคนเป็นลูกชาวนาชาวสวนชาวไร่ ต้องไปขอกู้เงิน หยิบยืมเงินคนอื่น มาให้ลูกตัวเองมาสอบ

“ผมคิดว่าทางผู้ใหญ่หลายๆท่าน น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ให้คนที่สอบผ่านจริงๆ ผมสงสารคนอีกไม่น้อยครับ ที่ต้องเสียงานเสียเงินเสียอนาคต กับการสอบตำรวจ”นายชยพล ระบุ

Advertisement

เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ พินิจมนตรี หนึ่งในผู้ที่สอบได้ตัวจริง เปิดเผยกับมติชนว่า เป็นความรู้สึกว่าคนสุจริตเยอะกว่า คนทุจริตมีแค่ส่วนน้อย ควรตัดคนที่เสียออก ไม่ใช่การตัดคนออกทั้งหมด เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันต่างกับการทุจริตเมื่อปี 2555 มากเพราะครั้งนั้น เป็นการประกาศหลังเพิ่งสอบเสร็จ ยังไม่ได้ทดสอบร่างกายหรืออื่นๆ แต่ครั้งนี้ ผู้สอบผ่าน ได้ผ่านทุกขั้นตอน บางคนออกจากงาน พักการเรียน เสียเวลาเพื่อไปทดสอบ เสียทั้งค่าใช้จ่าย ค่ารถ ค่ากิน บางคนกู้เงินมาทำเลสิกจำนวนมาก มีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างมาก หากยกเลิกทั้งหมด ก็ถือว่าไม่ยุติธรรมกับคนที่มาสอบ ทั้งคนคุมสอบก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง คนที่สุจริตทุกคนก็ทำตามขั้นตอนกระบวนการปกติ โดยในกลุ่มของผู้สอบผ่าน ขณะนี้ก็รอผลการตัดสินใจจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

“ผมอยากฝากให้ผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมกับคนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเข้ามาเป็นตำรวจ หากเกิดการโละการสอบขึ้นจริง ก็เสียใจมาก และน่าจะมีการร้องเรียนกระบวนการยุติธรรม หรือศูนย์ดำรงธรรม เพราะหากมีการสอบสวนเพื่อหาคนผิดจริง ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ไม่ใช่การโล๊ะทั้งหมด ซึ่งครอบครัวของตนตอนแรกยินดี ลูกสอบได้เป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ทุกคนเศร้าหมด และติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลา ได้แต่หวังว่าผู้ใหญ่จะให้ความเป็นธรรม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image