เมื่อวันที่ 7 มกราคม นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีที่ น.ส.ช่อเพชร นุ่มเมืองฝาง ลูกจ้างบริษัท แสงศิริการแพทย์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 76 /2 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ประกอบกิจการโรงพยาบาลร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ร้องเรียนถูกนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ค้างจ่ายค่าจ้างเดือนธันวาคม 2559 และปรับลดค่าจ้างจาก 9,000 บาท เหลือ 6,567 บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเวลา 16 เดือน เป็นเงิน 38,928 บาท และค่าทำงานในวันหยุดวันพักผ่อนประจำปีและวันลาป่วยอีกจำนวนหนึ่ง ว่า เบื้องต้น พนักงานตรวจแรงงานได้ดำเนินการสอบปากคำนายจ้างเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ซึ่งนายจ้างให้การรับว่าค้างจ่ายค่าจ้างจริงและจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้กับลูกจ้างโดยเร็ว จากนั้นวันที่ 6 มกราคม พนักงานตรวจแรงงานได้เข้าพบนายจ้างที่บริษัท แสงสิริการแพทย์ฯ อีกครั้ง เพื่อเร่งรัดการพิจารณาเงินตามสิทธิที่ลูกจ้างร้องทุกข์ ซึ่งนายจ้างได้จ่ายค่าจ้างเดือนธันวาคม 2559 จำนวน 9,000 บาท ให้กับลูกจ้างในวันดังกล่าว สำหรับค่าชดเชยและเงินรายการอื่นๆ ในวันที่ 9 มกราคมนี้ พนักงานตรวจแรงงานจะดำเนินการออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย และเงินรายการอื่นๆ ที่ค้างจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ให้แล้วเสร็จเพื่อเร่งรัดให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
“พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ดำเนินคดีกับนายจ้างทุกรายที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกจ้างและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้นายจ้างฝ่าฝืนกระทำความผิดและเอารัดเอาเปรียบลูกจ้างได้ สำหรับกรณีนี้ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่งให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากนายจ้างไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนี้ ลูกจ้างสามารถมายื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง รวมทั้งมอบอำนาจให้ กสร.ฟ้องร้องทางแพ่งได้” นายสุเมธ กล่าว
