ตัวแทนภาคปศุสัตว์ จี้ 4 ข้อ หลังพาณิชย์ตีมึนข้อเรียกร้อง แต่กลับชงผลปัญญาภิวัฒน์ที่ขาดข้อมูลภาคเกษตรปศุสัตว์

ตัวแทนภาคปศุสัตว์ 11 สมาคม จี้ 4 ข้อ หลังพาณิชย์ไม่ตอบรับข้อเรียกร้องในที่ประชุม แต่กลับตามน้ำผลปัญญาภิวัฒน์ ที่ขาดข้อมูลภาคเกษตรและปศุสัตว์ในเชิงตัวเลขผลกระทบ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังมีการอ้างข้อมูลไม่ถูกต้อง

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ นำตัวแทนยื่นหนังสือต่อ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ภาคปศุสัตว์สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนหันหน้ามาหากัน และร่วมประเมินผลกระทบในครั้งนี้ เพื่อให้รัฐบาลตัดสินใจโดยมองให้รอบด้าน เพราะผลกระทบที่จะเกิดกับเกษตรกรนับล้านคน และการไม่รักษาความมั่นคงทางอาหารจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศในอนาคต ในขณะที่ TPP เป็นความพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งได้ให้น้ำหนักทางเศรษฐกิจในกลุ่มสินค้าเกษตรและปศุสัตว์มากขึ้น”

ด้าน นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย กรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวถึงการยื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า “สืบเนื่องจากภาคปศุสัตว์ โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก TPP ถึงนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 และได้เข้าร่วมประชุมภาคเกษตรกับกรมเจรจาฯ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 โดยผู้แทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ได้เสนอที่ประชุมให้ทุกภาคส่วนทำประเมินผลเสียหาย เพื่อนำมาร่วมพิจารณา แต่กรมฯ มิได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหลังการประชุมแต่ประการใด แต่กลับให้ความสำคัญกับผลการศึกษาของสถาบันปัญญาภิวัฒน์ที่ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียด วิธีการศึกษาใดๆ ทั้งๆ ที่เรื่องการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ ภาคปศุสัตว์ต้องการให้รัฐบาล พิจารณาให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจเข้าร่วมหรือไม่ เพราะภาคปศุสัตว์ และเกษตรอาหารสัตว์มีภาพของการล่มสลายชัดเจนจากการประเมินเบื้องต้นที่ได้นำเสนอไปแล้ว และพร้อมนำเสนอตัวเลขต่อทุกภาคส่วน ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมทั่วไปคาดว่าจะได้เพียงภาษีที่จะลดลงเป็นศูนย์ทันทีเท่านั้น ในขณะที่ข้อกังวลของภาคอุตสาหกรรม ในห่วงโซ่การผลิตของอาเซียนจะไม่เกิดขึ้นเพราะทุกประเทศในอาเซียนต่างเป็นสมาชิก AFTA อย่างไรก็ตามถ้าทุกภาคส่วนทำการประเมินผลได้ผลเสียออกมาชัดเจน จะทำให้ลดความเสี่ยงต่อการตัดสินใจในครั้งนี้ของประเทศ”

เพื่อขจัดความคลุมเครือทั้งผู้ที่คัดค้าน และสนับสนุน TPP ขอให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนที่เข้าให้ข้อมูล เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้มีความรัดกุมที่สุด ภาคปศุสัตว์ขอทวง 4 ข้อเสนอ เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานและดำเนินการเร่งด่วน คือ

1. ให้ทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้เสียดำเนินการทำตัวเลขประมาณการความเสียหาย และผลได้ที่คาดว่าจะได้รับจากการที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก TPP โดยให้กระทรวงพาณิชย์จัดเตรียมรูปแบบในการจัดทำเพื่อให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกันเพื่อที่จะง่ายต่อการทำความเข้าใจและตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลขและสมมติฐานในการจัดทำ

ADVERTISMENT

2. ให้ทุกภาคส่วนรายงานตัวเลขที่ไม่สามารถสร้างการค้าได้ จากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่ลงนามไปแล้ว พร้อมแจงเหตุผลพร้อมระบุข้อกีดกันทางการค้าที่ประสบจากประเทศที่ได้ร่วมทำข้อตกลงเขตการค้า

3. ให้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยทำตัวเลขสะสม ตั้งแต่ดำเนินการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันแยกเป็นรายข้อตกลง รายอุตสาหกรรมประกอบเหตุผลของการไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือถูกการกีดกันทางการค้า พร้อมทั้งแนวนโยบายในการแก้ปัญหาที่เกิดพร้อมแนวทางปฏิบัติ และกรอบเวลาในการแก้ปัญหาจนประสบผลสำเร็จ

4. ข้อเสนออื่นๆ จากทุกภาคอุตสาหกรรม เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก TPP หรือไม่ ซึ่งจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการมีส่วนร่วมมากขึ้นในการนำพาประเทศชาติเดินไปข้างหน้าร่วมกันทั้งจากภาครัฐและเอกชน

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ มีแผนที่จะฟังประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นตรงนี้รับเรื่องไว้แล้ว เราก็ดูว่าในส่วนของภาคปศุสัตว์ จะคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเราจะทำอะไรบ้าง สำหรับแผนงานของกรมมีแผนที่จะเดินทางไปทั่วประเทศ จะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม เราจะไปทุกส่วนภูมิภาค เราจะเดินทางทุกเดือน เราจะไปตามภูมิภาคทั้งหมดรับฟังให้มากที่สุด ทั้งสี่ภาค และต้องเร็วที่สุด

นายสุรชัย กล่าวย้ำหลังการเข้ายื่นหนังสือฯครั้งนี้ว่า “ภาคปศุสัตว์หนุนรัฐบาลเต็มที่เดินหน้าตามกรอบ ASEAN+6 หรือ RCEP เพราะแต่ละประเทศสมาชิกมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่ต่างกันมากนัก อยากให้ทุกภาคอุตสาหกรรมมองผลกระทบในภาพรวม เพราะเมื่ออุตสาหกรรมใดๆ ล้มหายตายจาก มันจะกระทบภาพเศรษฐกิจใหญ่ของประเทศทั้งหมด”